ตั้งแต่ที่มีการทํารัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2557 รัฐบาล คสช. มีนโยบายหลักๆ 5 ข้อ และ 2 ข้อแรกหลัก ก็คือ :
1) สร้างความปรองดองภายในชาติ
2) ผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท
และอื่นๆ
ด้วยสาเหตุข้างต้น ทําให้ Cons Index ที่ปรับตัวลงไปตํ่ากว่า 110 จุด ก่อนหน้านั้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2557 ( เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินว่า " โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้าน บาท และ โครงการบริหารจัดการนํ้า 250,000 ล้านล้าน บาท ในสมัยรัฐบาล น.ส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ) ได้ปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดในรอบที่แล้วที่ 162 จุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2559
อย่างไรก็ตาม การประมุลโครงการโครงสร้างพื้นฐานมีการเลื่อนการดําเนินการมาเรื่อยๆ เนื่องจากความล่าช้าจากภาครัฐในการออกระเบียบและกฏเกณฑ์ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในบางขั้นตอน การประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท จีงไม่ค่อยมีความคืบหน้ามากนัก ทั้งๆที่หนี้สาธารณะก็อยู่ในระดับ 44% ของ GDP ซึ่งอยู่ในวิสัยที่สามารถจะทําได้ เมิ่อโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท มีความล่าช้า จึงมีผลทําให้ Cons Index ปรับตัวลงมาที่ 106.96 จุด ในวันนี้ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561
อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์มีความเห็นว่า ตั้งแต่เดือนหน้าคือเดือน มีนาคม ปี พ.ศ 2561 Cons Index น่าจะเป็นขาขึ้นเต็มตัว ด้วยสาเหตุ 2 ประการคือ :
1) พรบ. เขตเศรษฐกิจอีอีซี ( EEC ) ได้มีผลบังคับเป็นกฏหมายตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561 แล้ว
2) การเลือกตั้งทั่วไปของไทยน่าจะมีขึ้นประมาณต้นปี พ.ศ 2562
ด้วยเหตุผลหลัก 2 ประการข้างต้น น่าจะทําให้ Cons Index ปรับตัวขึ้นไปได้ จนกระทั่งประมาณปลายปี พ.ศ 2563 เมื่อการประมุูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ได้มีการดําเนินการและรู้ผลแล้ว 80% ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรอบใหญ่ หรือ การปรับตังขึ้นของ Cons Index จึงจะสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ความคิดเห้นข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และ ไม่รับประกันความถูกต้อง และ ท้ายที่สุด สําหรับท่านนักลงทุนที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดตามได้ใน longtunbysak.blogspot.com