ห้องเม่าปีกเหล็ก

JMART ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปียังทรุด 19.13%

โดย จอมโจรลูแปง
เผยแพร่ :
105 views

JMART ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปียังทรุด 19.13%

โบรกฯเคาะ “ซื้อ” เชื่อยังมีอัพไซต์

หลังผลงานโตต่อ-จ่อรับรู้ดีล “สุกี้ ตี๋น้อย”

.

เรียกได้ว่า บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART สมกับเป็นหุ้นขวัญใจมหาชนอีกหนึ่งบริษัท โดยประเด็นล่าสุดก็ได้ประกาศดีลใหญ่อย่างการเข้าซื้อหุ้น “สุกี้ ตี๋น้อย” ในสัดส่วนกว่า 30% ใช้มูลค่าเงินลงทุนรวมไม่เกิน 1.2 พันล้านบาท สร้างความฮือฮาและความสนใจให้แก่นักลงทุน

.

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีข่าวดีต่างๆเข้ามาไม่ว่าจะประเด็นข้างต้นและผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 563.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 108.8% แต่ราคาหุ้นกลับไม่ได้ตอบรับมากนักโดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ วันที่10 พฤศจิกายน 65) ยังคงติดลบ 19.13% หรือลงมาอยู่ที่ 46.50 บาท

.

จนมีนักลงทุนตั้งข้อสงสัยและคำถามขึ้นนี่จะเป็นโอกาสการลงทุนใน JMART ได้หรือไม่ ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงได้หยิบยกมุมมองและคำแนะนำมาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนที่สนใจมาแบ่งปันกันในครั้งนี้

.

โดยบทวิเคราะห์ของบล.บัวหลวง ให้คำแนะนำซื้อ JMART ราคาเป้าหมาย 65 บาท เนื่องจากดีล BNN ที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารสุกี้ชื่อแบรนด์ สุกี้ ตี๋น้อย นี้เป็นปัจจัยบวกใหม่ (Positive Catalyst) ต่อ JMART เนื่องจากสุกี้ ตี๋น้อย เป็นร้านสุกี้ที่จะมาแรงและเติบโตเร็วที่สุดร้านหนึ่งในยุค และมีโอกาสอีกมากในต่างจังหวัด (ระดับราคาสินค้าเป็นกลุ่ม Mass อยู่แล้ว) และกลุ่ม JMART จะเข้าไปช่วยเสริมเรื่องเทคโนโลยี และการเงิน ช่วยผลักดันเข้าตลาดฯ

.

สำหรับ BNN ประกอบธุรกิจร้านอาหารสุกี้ชื่อแบรนด์ สุกี้ ตี๋น้อย ปัจจุบันมี 42 สาขา (ปี 2564 อยู่ที่ 36 สาขา) มีแผนจะขยายต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผลประกอบการปี 2564 รายได้ 1.57 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.41% มูลค่ารายการซื้อขาย 1.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม 15% และหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 15% รวมเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนหลังรวมหุ้นเพิ่มทุนแล้ว

หากเทียบมูลค่าการซื้อที่ 1.2 พันล้านบาท กับส่วนแบ่งกำไร 30% บนกำไรปี 2564 จะได้ PER ที่ 26.7 เท่า และหากสมมติให้กำไรปี 2565 เติบโต 50% จะได้ PER ที่อยู่เพียง 18 เท่า อัพไซต์ต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของเราและตลาดอย่างน้อย 2-3% (ตามกำไรจริงปี 2564) บวกการเติบโตของสุกี้ ตี๋น้อย แต่เรามองว่าจากความนิยมจะขยายได้อีกมาก

.

ฟากบทวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 63.00 บาท เนื่องจากเพราะกำไรปี 2565 – 66 โตได้เฉลี่ยสูงถึง 38% และกำไรยังมีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในระยะยาวจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาหุ้นยังมีอัพไซต์ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากหลายโครงการ เช่น ธุรกิจการขายแผงโซล่าร์รูฟท๊อป, การร่วมทุนกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นตามหัวเมืองต่างๆ (JayDee) และความร่วมมือกับ BRR

.

ส่วนนวโน้มกำไรปกติของ JMART ในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นได้ทั้งจากครึ่งปีแรกและช่วงเดียวกันปีก่อนจากการเติบโตขึ้นในทุกๆธุรกิจ ประกอบไปด้วยธุรกิจการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ (Jaymart Mobile) คาดจะมีรายได้เร่งตัวขึ้นในไตรมาส 3/65 จากการเปิดเมืองเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้น กรกฎาคม 65 ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือในไตรมาส 3/65 จะดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ COVID-19 ระบาดหนัก และมีการปิดห้างฯ ร้านค้าต่างๆ และร้านจำหน่ายมือถือไปชั่วคราว

.

รวมถึงจะได้รับผลบวกจากการที่ไอโฟน 14 มีการเปิดตัวในไทยช่วงกลาง กันยายน 65 ที่เร็วกว่าทุกปีส่วนในไตรมาส 4/65 จะไตรมาสแรกได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายไอโฟน 14 อย่างเต็มไตรมาสและได้ผลบวกจากฤดูกาลที่ผู้คนมักจับจ่ายสินค้าต่างๆมากขึ้นในช่วงปลายปีรวมทั้งสินค้าอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ

.

ธุรกิจจัดเก็บหนี้ (JMT) คาดจะมีพอร์ตลูกหนี้ที่จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง บวกกับความสามารถจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้นจะช่วยให้รายได้และอัตรามาร์จิ้นไต่ระดับสูงขึ้น นอกจากนี้ไม่ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายจากการเรียกเคลมประกันภัย COVID-19 อีกแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป หลังสัญญาประกันภัยCOVID-19 ได้สิ้นสุดลงไปหมดแล้วในเดือน เมษายน 65 ที่ผ่านมา

 

 


จอมโจรลูแปง