ห้องเม่าปีกเหล็ก

มองหุ้นเด่น : CBG วิ่งแรง โบรคมองครึ่งปีหลังกำไรโต ยอดขายต่างประเทศหนุนกำไรในระยะยาว

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
73 views

CBG ปัจจัยบวกหนุน ครึ่งปีหลังกำไรโต ยอดขายต่างประเทศและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหนุนกำไรโตในระยะยาวถึงแม้ว่าแผนการลงทุนที่จีนจะล้มเลิกก็ตาม

CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีการลงทุนหลักในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจ ผลิต ทำการตลาด จำหน่าย และบริหารจัดการการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างครบวงจร

โดยล่าสุด ราคาหุ้นได้ปรับตัวไปที่ 71.25 บาท ซึ่งราคาหุ้นจุดสูงสุดที่หุ้นทำได้ คือ 80.75 บาทต่อหุ้นและราคาก็ไหลลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 55 บาทก่อนจะปรับตัวเป็นขาขึ้นที่ 70 บาทอีกรอบ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คาราบาวแดง

มาดูบทวิเคราะห์กันว่าแต่ละสำนักมองหุ้นตัวนี้อย่างไรกันบ้าง

บล.กสิกรไทย แนะนำซื้อ CBG ประเมินราคาพื้นฐานที่ 80 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.5% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน

ปัจจัยหนุนการเติบโตรายไตรมาส มาจากยอดขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะจากตลาดประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายปี 60 ที่ 1.4 พันล้านบาท

กำไรสุทธิช่วงครึ่งปีแรกจะคิดเป็น 40.7% ของประมาณการทั้งปี โดยฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิช่วงครึ่งหลังปี 60 จะมีสัดส่วนราว 60% โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนที่คาดขยายตัว และการขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตกระป๋องเป็น 830 ล้านกระป๋องต่อปี เทียบกับ 350 ล้านกระป๋องในไตรมาส 1/60

CBG ลุ้นยอดขายเติบโตแข็งแกร่ง รับแรงหนุนตลาดในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี รวมทั้งรับรู้รายได้จากตลาดใหม่ในจีน คาดยอดขายปี 2560 เติบโต 55.7% ขณะที่กำไรขั้นต้นยังได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่าย ICUK

บล. ซีไอเอ็มบี ซึ่งให้ราคาเหมาะสม CBG สูงสุดที่ 87 บาท ระบุว่า การประกาศยกเลิกการลงทุนใน JV ที่ประเทศจีน เป็นปัจจัยบวกเนื่องจาก CBG สามารถขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้จัดจำหน่ายในจีน โดยปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นขึ้น 0.4-14.5% ในปี 60-61 จากการตัดผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดจากการทำ JV ในประเทศจีนตามประมาณการของเรา พร้อมคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายสูงขึ้นที่ 87 บาท

ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัสให้ราคาเหมาะสม CBG ต่ำสุดเพียง 65 บาท โดยระบุว่าการยกเลิกการลงทุนกับบริษัทร่วมทุนที่จีน เพราะพบว่าอาจต้องรับรู้ขาดทุนที่จีนนาน 4-5 ปี (เดิมคาด 2 ปี) รวมขาดทุนมากถึง 1.4 หมื่นลบ. แต่ยังสามารถขายสินค้าเข้าไปในจีนได้ตามเดิม ทำให้รับรู้รายได้และกำไรได้ทันที และมีเงื่อนไขให้ CBG เข้าซื้อหุ้นในบริษัทร่วมทุนนี้ได้ใหม่ในอนาคต ซึ่งเรามองว่าเป็นข่าวบวก นำไปสู่การปรับเพิ่มกำไรปีนี้เป็นโต 20% Y-Y จากเดิมที่คาดโต 11% Y-Y และทำให้ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 65 บาท จากเดิม 60 บาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันยังถือว่าเต็มมูลค่า

บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” CBG หรือบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยฝ่ายวิจัยประเมินยอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 33.4% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายภายในประเทศที่ยังเติบโตได้ และการเพิ่มสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน Cash Van ขณะที่ยอดส่งออกที่มีแนวโน้มเป็นบวก รับรู้รายได้จากการเปิดตลาดใหม่ในจีน โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการลงทุนใน Joint Venture เป็นการส่งออกทำให้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการลงทุน แต่มองว่าสถานการณ์ ICUK ยังไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อเติบโตได้ช้ากว่าที่คาด

ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวลดลงในช่วง 2 ปีนี้ จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นต่ำลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กาแฟ, การเปลี่ยน Product Mix ของ Cash Van และการส่งออกไปยังจีน แต่คาดว่าผลกระทบจะลดลง ด้วยการปรับเปลี่ยน Packaging ทำให้ฝากระป๋องมีราคาถูกลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว แต่ค่าใช้จ่าย ICUK จะยังกดดันกำไรสุทธิจนถึงปี 2561 และจะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงปี 2562

ส่องกำไร1,428ล้านบ. ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้น 4% จาก 1,373 ล้านบาท เป็น 1,428 ล้านบาท ลดลง 4.1% โดยคาดว่ายอดขายรวมปี 2560 จะเติบโตโดดเด่น 55.7% จากแนวโน้มยอดขายรวมภายในประเทศที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กาแฟ และการเติบโตของตลาดส่งออก โดยเฉพาะประเทศจีน โดยประเมินยอดสั่งซื้อของปี 2560-2562 ไว้ที่ 250 ล้านกระป๋อง แม้จะมีค่าใช้จ่าย ICUK ราว 400 ล้านบาท ที่จะเข้ามากดดันกำไรสุทธิในปีนี้ ในส่วนของกำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 33.4% เทียบกับปีก่อนที่ 35.9%

โดยฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิโดยวิธี DCF โดยมี Terminal growth ที่ 3.5% และ WACC ที่ 4.8% และปรับมูลค่าเหมาะสมปี 2560 ขึ้นจาก 75.50 บาทเป็น 78.00 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบันราว 10% จึงแนะนำ “ซื้อ” แต่การประเมินมูลค่าเหมาะสมยังไม่ได้รวมผลกระทบจากภาษีความหวานและการประมาณการผลิตภัณฑ์เหล้าขาว<

::::::::::::::::::::::::::::::::

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก Efinancethai, อินโฟรเควส และหนังสือพิมพ์ทันหุ้น

 


คนเล่นหุ้น