ห้องเม่าปีกเหล็ก

[ตอนที่ 26] บทความแปลหนังสือ by cmFX ” Price Pattern : Martin Pring on Price Patterns”

โดย cmfx
เผยแพร่ :
69 views

 

เหตุผลทางจิตวิทยาของการฟอร์มรูปแบบ H & S

จิตวิทยาพื้นฐานของการฟอร์มตัวรูปแบบหัวและไหล่ H & S  จะขึ้นอยู่กับกรอบเวลาอย่างมาก ถ้ามันพัฒนาบนกราฟรายสัปดาห์ที่ราคาไต่ขึ้นมาหลายเดือนหรือยืดเยื้อมานาน จิตวิทยาฝูงชนก็จะเชื่อมั่นว่านี่เป็นตลาดขาขึ้นได้มากกว่ารูปแบบเดียวกันนี้อยู่บนกราฟ 10 นาที

ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลก เพราะรูปแบบ H & S ที่ส่งสัญญาณขาลงบนกราฟรายสัปดาห์ย่อมมีความสำคัญกว่าอยู่แล้ว เนื่องจากในเชิงจิตวิทยานั้น การแกว่งตัวทางจิตวิทยาที่เป็นขาขึ้นจะใช้เวลายาวนานกว่าการแกว่งตัวไปเป็นขาลงอย่างรุนแรงจากที่คาดว่าจะมีการกลับตัวเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีลักษณะทั่วไปในการพัฒนารูปแบบเหล่านี้ที่นำไปใช้กับกรอบเวลาทั้งหมด ส่วนที่แตกต่างก็คือด้วยรูปแบบที่ขนาดเล็กกว่าบนกราฟระหว่างวันจะเห็นเพียงชั่วครู่แล้วก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ถ้านำกราฟหลายปีไปวางไว้บนกราฟรายเดือนก็จะได้รูปแบบที่ไม่ครบถ้วน

ลองคิดว่าถ้าเราลองเอารูปแบบนี้ไปวางไว้บนกราฟรายวัน  ในรูปที่ 7-1 ถึงแม้ไหล่ซ้ายจะสิ้นสุดการทำราคาขึ้นไปอย่างสวยงามแล้วก็ตาม แต่ในแง่จิตวิทยาคนจะคิดว่ามันยังเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งอยู่ ถึงการพัฒนารูปแบบจะถดถอยและราคาที่ไหล่ซ้ายจะลดลง แต่ผู้มีส่วนร่วมในตลาดยังหวังว่ามันจะยังเป็นแนวโน้มของขาขึ้นต่อไป ในหลายๆ กรณี การไล่ราคาที่ขึ้นไปจะฟอร์มตัวเป็นรูปหัวขนาดใหญ่มาก เนื่องจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นสนับสนุนความเชื่อมั่นว่าเป็นขาขึ้นฝูงชนเลยดูค่อนข้างมีความสุขที่ได้อยู่บนยอดดอยสูงสุด และบ่อยครั้งที่ระดับปริมาณการซื้อขายของส่วนหัวจะต่ำกว่าการไล่ราคาของไหล่ซ้าย นี่คือสัญญาณว่าภายใต้สิ่งที่เห็นกลับมีแรงซื้อมารองรับน้อยกว่ากรณีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ถ้าคุณกำลังติดตามดัชนีวัดการแกว่ง มันก็อาจจะฟอร์มรูปแบบเป็น  negative divergence ระหว่างการไล่ราคาขึ้นสองครั้ง ดังนั้นมันจึงเป็นการบ่งชี้ปัญหาอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ [สำหรับคำอธิบายที่สมบูรณ์ของดัชนีวัดการแกว่ง โปรดดู Martin Pring Market Momentum (McGraw-Hill, 2002) workbook/CO-ROM tutorial.]  ความขัดแย้งของปริมาณการซื้อขายและดัชนีวัดการแกว่ง ไม่ใช่สัญญาณการขายแต่เป็นคำเตือนมากกว่าว่าราคามีความเสี่ยงสูง ในกรณีของสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มจากตัวมันเอง

เมื่อการไล่ราคาที่ส่วนหัวจบลง ราคาจะตกกลับมาอยู่ที่เส้นแนวรับบริเวณราคาต่ำสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งที่จุดนี้ ผู้ซื้อที่ตกรถจะเริ่มกล้าเข้ามาซื้อในตลาด แน่นอนว่าถ้าราคาเคยเริ่มขึ้นจากระดับนี้มาก่อนมันก็จะกลายเป็นราคาต่อรองและดีดตัวกลับขึ้นไปอีกครั้ง ส่วนผู้ที่ถือหลักทรัพย์ก็จะรู้สึกเหมือนกันเลยไม่ค่อยอยากจะขาย  ราคาที่ขึ้นแต่ละครั้งก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุให้ต้องกังวลว่าราคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะมีแนวโน้มผิดแผกไปจากที่คาด อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละครั้งค่อนข้างอ่อนแอ ปริมาณการซื้อขายจะหดตัวเมื่อราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ่งชี้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ไม่มีแรงเทขายมากกว่าการเข้ามาของแรงซื้อ   เมื่อการขายเริ่มสะสมขึ้นราคาจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของไหล่ขวาและเริ่มไถลลง ฝั่งผู้มีส่วนร่วมในตลาดยังมองเห็นเป็นขาขึ้นและคิดว่าราคาจะถอยลงไปก่อนดีดตัวกลับขึ้นไปหาจุดสูงสุดใหม่  แต่สำหรับฝั่งนักวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว การที่ปริมาณซื้อขายลดลงพร้อมกับราคาเพิ่มขึ้นที่ไหล่ขวาถือว่าเป็นสัญญาณของขาลงแล้วเพราะเมื่อดูจากปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่าไหล่ซ้ายและหัวแสดงว่ามันมีอาการอ่อนล้าลงเป็นอย่างมาก ในที่สุดเมื่อราคาร่วงลงต่ำกว่าระดับจุดต่ำสุดทั้งสองก่อนหน้านี้ ก็หมายความว่าผู้ซื้อจำนวนมากขาดทุนไปแล้ว ในสถานการณ์อย่างนี้ ถึงจะมีคนขายแต่ก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครกล้าซื้อ   ราคาอาจมีโอกาสดีดตัวขึ้นบ้างถ้ามีข่าวดีและคนมีความรู้สึกว่ามันจะเป็นขาขึ้น แต่ถ้ามีข่าวร้ายราคาก็ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้เราอาจเห็นราคาไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็วและทำแนวโน้มขาลงแบบซิกแซก (ให้ความหวังสลับกับความสิ้นหวัง) ไปพร้อมกับราคาที่ค่อยๆ ลดลง

คนสามารถทำและเปลี่ยนความคิดของพวกเขาได้ และเหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้ รูปแบบ H & S ด้านบนจำนวนมากพอสมควรจะถูก cancelled out เมื่อฐานเกิดขึ้นต่ำกว่าเส้น neckline  จากนั้นจิตวิทยาขาลงที่ เกี่ยวข้องกับการทะลุแนวรับลงไปของ H & S จะถูกแทนที่ด้วยความเชื่อมั่นเชิงบวกที่เกิดจากการทำราคาจากฐานทะลุผ่านขึ้นไป จากนั้นราคาก็จะขึ้นอย่างอิสระอีกครั้งแต่มากกว่าเดิม

 

ความหมายของการวัด

สูตรการวัดสำหรับการฟอร์มราคาคือความลึกสูงสุดของรูปแบบซึ่งในกรณีของ H & S จะเป็นระยะห่างระหว่างจุดสูงสุดของส่วนหัวกับเส้น neckline โดยราคาเป้าหมายนี้จะเป็นการลากลงมาจาก neckline ตรงจุดที่ราคาหลุดผ่านแนวรับลงมา

(รูปที่ 7-3)

 

เมื่อการฟอร์มรูปแบบเสร็จสิ้น ยิ่งรูปแบบมีความลึกเท่าใด แนวโน้มขาลงของมันก็ยิ่งมีนัยสำคัญมากขึ้น บางครั้งการเสร็จสิ้นรูปแบบ H & S จะตามมาด้วยแนวโน้มขาลงที่ค่อนข้างกว้าง นั่นคือผลกระทบเชิงลบของรูปแบบจะยุติอย่างรวดเร็วโดย ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ควรคาดหวังว่าการที่ราคาหลุดผ่านแนวรับลงมาจะทำให้คุณได้กำไรก้อนใหญ่ทุกครั้ง (จากฝั่ง short) และควรระลึกไว้เสมอในยามที่สภาวะทางเทคนิคมีการเปลี่ยนแปลง

 

รูปที่ 7-3 ความหมายของการวัดรูปแบบ Head-and-shoulders ด้านบน

 

 

บทความตอนที่ผ่านๆ มาอ่านได้จาก: http://www.chiangmaifx.com/price-patterns.html

www.facebook.com/275391639215535/photos/pcb.1603468543074498/1603467323074620/


cmfx