ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิเคราะห์อนาคต SCB เมื่อต้องระดมทุนกว่า 1 แสนล้านบาท

โดย เม่าคาวบอย
เผยแพร่ :
200 views

วิเคราะห์อนาคต SCB

เมื่อต้องระดมทุนกว่า 1 แสนล้านบาท

 

.

มีเพียงไม่กี่บริษัทในตลาดหุ้นไทยที่จะประกาศแผนการใช้เงินก้อนใหญ่ระดับแสนล้านบาท เพื่อลงทุนต่อยอดพัฒนาธุรกิจในสายงานต่างๆให้ครอบคลุม แน่นอนว่าเรากำลังเอ่ยถึงบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB หลังจากที่ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อเตรียมขออนุมัติประชมผู้ถือหุ้นระดมทุนโดยการออกตราสารหนี้วงเงินรวมไม่เกิน 100,000 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดและมุมมองจากนักวิเคราะห์จะเป็นอย่าง Wealthy Thai จะพาไปหาคำตอบ

.

โดย SCB รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายตราสารหนี้ข้อเท็จจริงและเหตุผจ ตามแผนธุรกิจปี 2565 - 2567 บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ดิจิทัล (Consumer Finance) ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assels) และธุรกิจแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง

.

ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะยกระดับขีดความสามารถของบริษัทในการเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Technology Company) บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องระดมเงินทุนส่วนหนึ่งจากการออกตราสารหนี้ในรูปแบบต่างๆ จำนวนเงินภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่าในเงินสกุลอื่น

.

ขณะที่ในมุมของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยการออกหุ้นกู้ของ SCBX จะเป็นช่องทางหลักใน การหาแหล่งเงินทุนใหม่ สำหรับลงทุนในธุรกิจย่อยภายในกลุ่ม โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินฝากและเงินทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการและการทำธุรกิจของ SCBB (ธนาคาร SCB)

.

มีข้อดี สำคัญคือ การดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อยต่างๆ จะมีเกณฑ์ในการทำธุรกิจที่ผ่อนปรนและ คล่องตัวกว่าการประกอบธุรกิจภายใต้ธนาคาร จึงสามารถที่จะแข่งขันกับ Non-Bank รายอื่นๆ ได้ด้วยเกณฑ์ที่เท่าเทียมกัน ขณะที่บริษัทย่อยของ SCBX จะได้รับการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีของกลุ่มที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการดำเนินงาน

.

แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อเสียคือหลักๆ คือ SCBX จะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการออกหุ้นกู้เพื่อขยายธุรกิจ โดยล่าสุด เมื่อวัน ที่ 9 พ .ย. 65 Fitch มีการจัด Credit Rating ข อง SCBX ที่ระดับ BBB (International Rating) และ AA+ (National Rating) เท่ากันกับ Credit Rating ของ SCBB ซึ่ง เบื้องต้นคาดหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 3.5-4.5% สูงกว่าต้นทุนทางการเงิน เฉลี่ยในปัจจุบันของบริษัทที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.7%

.

อย่างไรก็ดีเราคาดการออกหุ้นกู้จะเป็นแบ่งออกเป็นหลายชุด ตามความต้องการใช้เงินของบริษัทย่อยในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อไม่ให้ต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นเร็วเกินไป โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินทุนที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้เพื่อลงทุนต่อยอดในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าธุรกิจเดิมๆ ของธนาคารซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง4%

.

โดยเฉพาะในกลุ่ม Consumer Finance ซึ่งมีธุรกิจที่น่าสนใจและมีความพร้อมในการขยายตัวอยู่แล้ว อย่าง CardX (สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 15%), AutoX (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 17-18%), และสินเชื่อในกลุ่ม Digital Lending ทั้ง MONIX, SCBABACUS(สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 20%) หนุนให้ NIM และส่วนต่าง (Spread) ของกลุ่ม SCBX ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณสินเชื่อในกลุ่ม Consumer Finance ที่เร่งตัวขึ้น

.

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำเงินไปลงทุนในธุรกิจ Digital Asset เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต และธุรกิจ Digital Platform ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงและได้ข้อมูลของลูกค้านอกเหนือจากฐานลูกค้าเดิมที่มีบัญชีธนาคาร นำไปสู่การทำ Cross Sellingและ Upselling

.

ชอบ SCB จากทิศทางการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งแม้ในช่วงสั้นอาจทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ในระยะยาวมองว่าบริษัทจะมีศักยภาพทำกำไรที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และช่วยให้ ROE ของ SCB เร่งตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่รายอื่น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 37.1% จากมูลค่าพื้นฐานปี2566 ที่ 144 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 1x) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

 


เม่าคาวบอย