โดย อิคคิวซัง
เผยแพร่ : 
134 viewsTISCO เผยปี 65 มีกำไร 7,221.73 ลบ. โต 6.44% หลังธุรกิจธนาคารฟื้น-สำรองฯลดลง
.
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลการดำเนินงานปี 65 มีกำไร 7,221.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.44% จากปี 64 ที่มีกำไร 6,784.59 ล้านบาท เป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ลดลง
.
โดยในปีนี้ เงินให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้ 7.9% จากปีก่อน จากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้น 2.2% จากปีก่อนหน้า ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 24% สอดคล้องกับปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
.
ด้านภาพรวมรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 13.4% จากปีก่อนหน้า ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนชะลอตัวลงจากปี 64 ตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวนจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์อ่อนตัวลง 19.2% จากปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนลดลง 15.6% จากยอดขายที่ลดลงของกองทุนที่ออกใหม่
.
นอกจากนี้ ในปี 65 บริษัทไม่มีการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมที่แปรผันตามผลประกอบการของธุรกิจจัดการกองทุน เมื่อเทียบกับรายได้ 502.73 ล้านบาท ที่รับรู้ในไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า รวมถึงกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 64
.
ด้านผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการตั้งสำรองในปีก่อนหน้า โดยการตั้งสำรองในระดับนี้ บริษัทได้พิจารณาถึงการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระดับสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม ลดลงมาอยู่ที่ 2.09% ของสินเชื่อรวม อีกทั้งบริษัทลดระดับการตั้งสำรองในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะความเสี่ยงที่ลดลงหลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังคงแข็งแกร่งที่ 258.8%
.
สำหรับในปี 65 ที่ผ่านมา สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (NPLs) มีทั้งสิ้น 4,576.52 ล้านบาท ลดลง 7.7% จากสิ้นปี 64 และคิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตสินเชื่อรวมที่ 2.09% ของสินเชื่อรวม ลดลงจาก 2.44% จากสิ้นปี 64 เนื่องจากบริษัทยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างดี เป็นไปตามมาตรการการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพและช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง
.
ด้านกำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบริษัทอยู่ที่ 1,804.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 3.8% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่ 2.7% ในระหว่างไตรมาส ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น 22.1% จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภัย
.
**********************************
