มุมมองแนวคิดสำหรับมือใหม่ โดยคุณฮง สถาพร เซียนหุ้นอัจฉริยะ

สรุปสาระสำคัญ บทความสำหรับมือใหม่ โดยคุณฮง สถาพร
มีอะไรบ้างไปดูกันครับ

1. ดัชนีหุ้นจะขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือการเติบโตของประเทศ ถ้าประเทศเติบโตตลาดหุ้นก็จะขึ้นได้ดี

2. จะทำผลตอบแทนชนะตลาดได้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือ "ความขยัน" เราจำเป็นต้องขุดหุ้นหลายๆตัวและให้เจอเป็นคนแรกๆ เราอาจจะซื้อหุ้นที่ตลาดมองว่าไม่ดีแต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคิด

3. ทัศนคติทางการลงทุน มีจุดเริ่มต้นมาจากเป้าหมาย อยู่ที่ว่าเรามีเป้าหมายเพื่ออะไร เข้ามาเล่นๆขำๆ หรือเข้ามาเพื่อค้นหาอิสรภาพทางการเงิน

4. อิสรภาพทางการเงินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีชีวิตเรียบง่ายไม่มีครอบครัวก็จะมีอิสรภาพทางการเงินเร็วกว่า แต่ถ้าเรามีบุตร เราก็ต้องมองไปถึงอนาคตของบุตรด้วย อิสรภาพทางการเงินของเราก็จะช้ากว่า

5. การลงทุน คือ แผนการระยะยาวที่จะซื้ออิสระให้กับชีวิต

6. สไตล์การลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเริ่มลงทุนไปสักระยะหนึ่งแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่นก็สามารถประสบความสำเร็จได้

7. และด้วยสไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน การซื้อหุ้นตามเซียนหรือตามคนอื่น เป็นความผิดพลาดของตัวเราเอง

8. การลงทุนไม่มีคำว่า "กำไรทุกเดือน" เพราะบางเดือนเราอาจจะขาดทุนหนัก บางเดือนกำไรมาก บางเดือนไม่ได้อะไรเลยก็มี เว้นแต่ว่าเราจะคำนวนว่าซื้อหุ้นเพื่อหวังปันผล คาดเดาว่าปีนี้น่าจะได้ปันผลประมาณนี้แบ่งแต่ละเดือนออกมาเท่าไร แบบนี้ยังพอคาดหวังได้

9. ตลาดหุ้นจะทดสอบเราในช่วงที่ผลตอบแทนย่ำแย่ (ซึ่งทุกคนต้องเจอ) ว่าเรายังมีศักยภาพเพียงพอในการอยู่ในหุ้นได้หรือไม่ ดังนั้นการอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนที่มองโลกในแง่บวกเป็นเรื่องสำคัญมาก

10. เคล็ดลับในการสร้างพอร์ตให้โต คือ ขาดทุนให้น้อย กำไรต้องกินคำใหญ่ มองภาพรวมของพอร์ตทั้งหมดมากกว่ามองแค่หุ้นตัวที่ขาดทุน

11. ต่อให้เราเก่งแค่ไหน มั่นใจมากแค่ไหน มีองค์ความรู้ในการหาเงินมากเท่าไรก็อาจจะลงทุนแล้วขาดทุนได้เพราะเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสมอ เช่น ปิดประเทศเพราะโรคระบาด การแข่งขันที่รุนแรงกว่าคาด ผู้บริหารแย่กว่าคาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน มันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

12. องค์ประกอบของการประสบความสำเร็จจากหุ้น 4 ข้อ คือ การเลือกหุ้น การจัดพอร์ต จังหวะเข้าซื้อ และจิตวิทยา

13. คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเลือกหุ้น และจังหวะเข้าซื้อ
แต่การจัดพอร์ตกลับถูกพูดถึงน้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อหุ้น 4 ตัว แบ่งเงินตัวละ 25% เท่ากับหมด ถ้าสองตัวกำไร สองตัวขาดทุน เราก็จะไม่ได้ไม่เสีย เราจะกำไรได้ก็ต่อเมื่อเรากำไร 3 ตัว แต่ 1 ตัวขาดทุน
แต่ถ้าเราจัดพอร์ตใหม่ ตัวที่กำไรคือตัวที่ลงเงินมากสุด ตัวที่ขาดทุนลงเงินน้อย ภาพรวมของพอร์ตก็จะกำไร ถ้าตัวที่กำไรลงเงินหนัก 70% ในขณะที่อีก 3 ตัว ลงตัวละ 10% ต่อให้ทั้ง 3 ตัวขาดทุน เราก็ยังกำไรอยู่มาก

14. เหนือสิ่งอื่นใด "จิตใจ" หรือจิตวิทยา ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการที่จะประสบความสำเร็จจากหุ้น ถ้าเราเป็นคนขี้ตกใจและพร้อมจะขายทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงที่หุ้นตกแรง แสดงว่าเราไม่เหมาะสมที่จะลงทุนในหุ้น