ที่มา : บล.ทรีนิตี้
สรุปการประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 1/2560
-กำไรไตรมาส 1/2560 จำนวน 965 ล้านบาท (-21.5%QoQ, +92.2%YoY)จาก
(1) การควบรวมกับ BIGC ซึ่งรับรู้เข้ามาเต็มไตรมาสโดย BIGC มีกำไรสุทธิ 1,572 ล้านบาท (+39%QoQ, +4.3%YoY) อัตราการเติบโตของสาขาเดิมติดลบ -20%YoY แต่ดีขึ้นกว่า ไตรมาส 1/2559 ที่ -21.5%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 16.1% จาก 13.2% ในไตรมาส 1/2559 เนื่องจากการปรับกลยุทธ์การขายที่เน้นกำไรมากกว่าจากเดิมที่เน้นทำเป้ายอดขาย
(2) ธุรกิจเดิมค่อนข้างทรงตัวในส่วนของ Packaging กำไรลดลง 5.0%YoY เนื่องจากการปิดเตาแก้วเพื่อซ่อมบำรุงตามแผน 45 วัน โดยยังมีปิดซ่อมอีกครั้งใน ไตรมาส 2/2560และ Consumer กำไรลดลง 6.8%YoY จากค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาสินค้าใหม่โดยแต่ส่วนHealthcare จากเป็นช่วงที่มีงานเข้ามา มีกำไรเติบโต 69.8%YoY การทั้งยอดขายและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น
- การเพิกถอนหุ้น BIGC
มติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติให้เพิกถอนหุ้น BIGC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย BJC จะทำ Tender offer หุ้น BIGC ที่เหลืออยู่ราว 2.06% เท่ากับ 17 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 225 บาท ทำให้ BJC ถือหุ้นทั้งหมดของ BIGC โดยจะเป็นไปตามเงื่อนไขและเกณฑ์ประกาศของกลต.ซึ่งคาดว่าจะถอนออกในช่วงเดือน ก.ค. 2560
- กรณีระเบิด BIGC ปัตตานี
กรณีระเบิดห้าง BIGC สาขาปัตตานีวันที่ 9 พ.ค. 2560 มีผลกระทบจำกัด ไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร โดยปิดซ่อมแซมตามเกณฑ์ 7 วัน และเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2560 โดยประกันครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด
- มุมมอง การขยายสาขา และเป้าหมายในอนาคต
--- มุมมองไตรมาส 2/2560 ยังมีการปิดซ่อมโรงงานแก้วตามแผนอีกครั้งในไตรมาสนี้ โดยบรรยากาศการจับจ่ายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวนัก
--- เตาหลอมใหม่ จ.สระบุรี คาดแล้วเสร็จ ในไตรมาส 2/2560 และจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2560 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตราว 300 ตันต่อวัน
--- แผนเดินหน้าขยายในต่างประเทศ โดยเน้นที่ กัมพูชา ลาวเพื่อเอา BICG ขนาดใหญ่เข้าไปให้แบรนด์เป็นที่รู้จักก่อนคาดว่าจะเห็นสาขาที่กัมพูชาในปี 2561