เสนา กรุ๊ป สลัดภาพอสังหาฯ ลุยธุรกิจใหม่ กรีน-เวลเนส-การเงิน 5.5 หมื่นลบ.
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจทั่วโลกมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น และเกิด Social Challenge ของภาคธุรกิจ ในอนาคตอีกหลายสิบปีข้างหน้า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวอาจไม่เพียงต่อความผันผวนของโลก
ดังนั้น ในปี 2566 เสนาฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Sustainable Business ผ่านคีย์เวิร์ด “SENA Multiplied” เบิกทางลงทุนพัฒนาโครงการและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ด้วยงบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 55,000 ล้านบาท ปูทางสร้างรากฐานตามแบบ “Lifelong Trusted Partner” เข้าไปอยู่ทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภคในหลายโมเดลธุรกิจ รับเมกะเทรนด์โลก โดยปรับ Core Business เป็น 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย
1.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ประกอบด้วยธุรกิจกลุ่มบ้านดั้งเดิมของเสนา โดยเพิ่มธุรกิจใหม่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ปลายปีก่อน คือ ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และแวร์เฮ้าส์โลจิสติกส์
2.เซ็น เอ็กซ์ พร็อพเพอร์ตี้ (sen x property) มุ่งทำธุรกิจบ้านระดับบน ราคา 20 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจบริการ
3. เสนา กรีน เอ็นเนอจี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจใหม่ ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานสะอาดและหมุนเวียน (โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี) สถานีบริการรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี ชาร์จเจอร์) เป็นต้น
จากเดิมมี 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูง ระดับกลาง ล่าง ภายใต้ บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ และ บมจ. เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ระดับบน
แนวทางดังกล่าวเพื่อรองรับเมกะเทรนด์ (Mega Trend) ทั้งด้าน Wellness การดูแลรักษาสุขภาพ และ Green Energy พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มโลก
โดยเสนา กรุ๊ป เตรียมพัฒนาโครงการเนิร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลและพักฟื้นผู้สูงวัยในชื่อ SJ HEALTHCARE เพื่อรองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุ พัฒนา MEDICAL WELLNESS CENTER และ PRIMARY CARE เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและความกังวลด้านดูแลสุขภาพในอนาคต
ขณะเดียวกันได้จับมือบริษัท ชิเซ็น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Shizen เพื่อลงทุนและศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการขยายตลาดด้านพลังงานหมุนเวียนร่วมกันในประเทศไทย และมองหาพันธมิตรในการติดตั้ง “โซลาร์แนวตั้ง” สำหรับอาคารสูงในประเทศไทยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้มากที่สุด
พร้อมเดินหน้าขยายพื้นที่ให้บริการชาร์จรถไฟฟ้า หรือ EV CHARGING STATION ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์ เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (SMARTCITY) ปัจจุบันติดตั้งในหมู่บ้านของ SENA ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการติดตั้งสถานีชาร์ตรถไฟฟ้า (EV Charging Station) เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับลูกบ้านในโครงการและลูกค้าทั่วไปในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งธุรกิจการเงินภายใต้ “เงินสดใจดี” เพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านในราคาไม่เกิน 2.5-3 ล้านบาท โดยจะให้สินเชื่อส่วนบุคคล (พี-โลน) กับลูกค้าเป็นระยะเวลา 3-4 ปี เพื่อแก้ปัญหาลูกค้าถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ
อย่างไรก็ดี พอร์ตธุรกิจหลักของเสนากรุ๊ป ยังเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยให้สัดส่วน 80% และในปี 2566 ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ รวมมูลค่า 24,024 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 9 โครงการ 7,471 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 17 โครงการ 16,553 ล้านบาท
ซึ่งใน 26 โครงการ แบ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป 22 โครงการ 21,210 ล้านบาท โดยปีนี้วางเป้าหมายสร้างนิวเรคคอร์ดครั้งใหม่ของบริษัท ด้วยเป้ายอดขาย 18,242 ล้านบาท และเป้าโอนรวม 16,539 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่เหลือขาย คิดเป็นมูลค่า 22,294 ล้านบาท และมีแบกลอคอยู่ในมือ 7,000-8,000 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ภายในปีนี้