ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่อง 10 อุตสาหกรรม ปี60

โดย รู้ทันการลงทุน
เผยแพร่ :
70 views

 

1.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง

โดยจะได้อานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใน 20 โครงการ วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีการขยายตัวทางด้านการค้า รวมถึงโอกาสการส่งออกวัสดุก่อสร้างไปยังประเทศ CLMV ที่มีการขยายตัว จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้าน

ความเสี่ยง การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ที่อาจจะล่าช้ากว่ากำหนด รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อาจกระทบต่อความต้องการในภาคที่อยู่อาศัย

2.อุตสาหกรรมยานยนต์

คาดว่าการส่งออกรถยนต์จะอยู่ที่ 1.22 ล้านคัน ส่วนยอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.8 แสนคัน ที่ได้อานิสงส์จากรถยนต์ในโครงการรถคันแรกจะครบอายุการถือครองในช่วงกลางปี 2560 คาดว่าจะมียอดซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 หมื่นคัน และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามมาอีกมาก เนื่องจากรถยนต์ในโครงการรถคันแรกมีกว่า 1.25 ล้านคัน และในจำนวนนี้คาดว่าจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ 10-20 % หรือประมาณ 1.25-2.5 แสนคัน ส่วนจะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่นั้น ก็จะต้องติดตามราคาสินค้าเกษตรว่าจะกลับมาตกต่ำหรือไม่ รวมถึงหนี้ครัวเรือน และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อด้วย

3. กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 

ส่วนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าตลาดภายในประเทศ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของคอนโดมิเนียม และที่อยู่อาศัย ทำให้มียอดซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามรายได้ของเกษตรกร รวมทั้งการรองรับการขยายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และคาดว่าการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐอเมริกา และตลาดอาเซียน ที่ฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ ต้องเฝ้าดูการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่ยังไม่แน่นอน การแข่งขันของสินค้ามาเลเซียและเวียดนาม รวมถึงความผันผวนของตลาดที่อยู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี

4.อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

คาดว่าตลาดในประเทศจะปรับตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับความต้องการเสื้อผ้าสีดำที่ขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2559

ปัจจัยความเสี่ยง การที่จีนและไต้หวัน ได้เข้าไปลงทุนสิ่งทอต้นนํ้าในเวียดนาม อาจทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าเส้นด้าย ผ้าผืน เป็นต้น

 

 

 

5.กลุ่มอาหาร

คาดว่าจะได้อานิสงส์ที่ดีจากผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว สอดรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้เกิดความต้องการต่อสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้นตาม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตหรือการแปรรูปอาหาร แต่ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อาจจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ผลิตรายใหญ่ การขาดแคลนวัตถุดิบ เป็นต้น

6.อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติก

จะขยายตัวตามความต้องการในประเทศจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่าง วัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง  แต่ก็ต้องระวังภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีการฟื้นตัวไม่แน่นอน รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

7.กลุ่มปิโตรเคมี

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะมีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเติบโตของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เป็นต้น และแนวโน้มการส่งออก จะขยายตัวได้ตามการเติบโตของกลุ่มประเทศอาเซียนและ CLMV 

ปัจจัยเสี่ยง ความต้องการสินค้าที่มีจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร กลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีการผลิตพลาสติกสำเร็จรูป เพื่อเข้ามาตีตลาดในประเทศมากขึ้น

8.อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

คาดว่าปริมาณความต้องการในประเทศ จะขยายตัวตามการใช้จ่ายและโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และเครื่องสำอาง ส่วนตลาดส่งออกน่าจะรักษาระดับการขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องระวังภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศคู่ค้าอย่างจีน ที่คาดว่าจะชะลอตัว เนื่องจากไทยมีสัดส่วนการส่งออกเคมีภัณฑ์ไปจีนสูง

9.ตลาดเครื่องหนัง

การส่งออกหนังฟอก เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้าของจีน ฮ่องกง และเวียดนาม คาดว่าจะยังมีความต้องการต่อเนื่อง และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงน่าจะส่งผลดีต่อการส่งออก ส่วนตลาดในประเทศ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอก หนังอัด คาดว่าจะขยายตัวได้จากการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่าง ยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ที่น่าจะส่งผลให้เครื่องหนักประเภทกระเป๋าและรองเท้ามียอดขายเพิ่มขึ้น

ปัจจัยเสี่ยง น่าจะมาจากการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ ต้นทุนแรงงานสูง ภาวะการแข่งขันที่สูง

10.อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์

คาดว่าจะเติบโตตามการขยายตัวของคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ส่วนตลาดต่างประเทศ การส่งออกไปยังตลาดเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV มีแนวโน้มมากขึ้น โดยกลุ่มที่ขยายตัวดีจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ เหล็ก และกลุ่มเครื่องนอน

แต่ยังต้องระวังเรื่องความสามารถในการแข่งขันของสินคาไทย ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากค่าแรงงาน ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมถึงในปี 2560 สหภาพยุโรป จะออกกฎระเบียบ เพื่อตรวจสอบที่มาของไม้ที่นำมาใช้ในการผลิตด้วย

 

ที่มา

 

 


รู้ทันการลงทุน