CPALL ฟื้นตัวต่อเนื่องหลังดีลควบรวมกิจการเทสโก้ โลตัส สำเร็จ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น  CPALL อยู่ที่ 56 บาท ล่าสุด 12.30 น. ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวานนี้ 1.50 บาทและฟื้นตัวต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 คาดทยอยฟื้นตัว หลังดีลควบรวมเทสโก้ชัดเจนแล้ว โดยบอร์ดการแข่งขันทางการค้าอนุมัติให้ควบรวมแบบมีเงื่อนไข ส่งผลให้ Overhang ถูกปลดล็อก อีกทั้งแนวโน้มกำไร 3Q63 คาดฟื้นตัว QoQ ขณะที่ราคา ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2564 เพียง 25.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 30 เท่า เข้าสู่ระดับที่น่าสนใจเชิง Valuation

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุว่า จากกรณีที่กลุ่มซีพีได้รับอนุมัติให้ควบรวมโลตัสได้แบบมีเงื่อนไข มีมุมมองเป็นบวกต่อ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL โดยคาดว่าจะต้องมีเงื่อนไขไม่ให้ผูกขาดตลาดหรือกดดันคู่ค้า เงื่อนไขยังไม่เปิดเผยชัดเจนแต่คาดว่าจะเป็นไปในลักษณะต้องไม่มีการบังคับให้ซัพพลายเออร์ หรือคู่ค้าต้องส่งสินค้าหรือบริการให้กับธุรกิจค้าปลีกปัจจุบันของเครือซีพี (เซเว่น-อีเลฟเว่น และแม็คโคร)เพียงรายเดียว

รวมทั้งต้องไม่มีเงื่อนไขการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากซัพพลายเออร์หรือคู่ค้า เช่น ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า (Entrance Fee) ค่าธรรมเนียมการวางสินค้า รวมทั้งต้องไม่เพิ่มค่าส่วนแบ่งจากยอดขายหรือกำไรขั้นต้น หรือ Gross Profit (GP) และต้องเปิดให้ซัพพลายเออร์หรือคู่ค้าเลือกได้ว่าจะส่งสินค้าให้กับธุรกิจค้าปลีกปัจจุบันของเครือซีพีหรือส่งให้กับ TESCO

โดยคาดว่าผลกระทบระยะสั้นจากการควบรวม จะไม่เพิ่มกำไรให้กับ CPALL เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก TESCO จะถูกลดทอนด้วยดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้เงินมาซื้อ TESCO (see Fig. 1) อย่างไรก็ตามระยะยาวคาดว่าจะได้ผลดีจากการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกและ cost saving & synergy ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่ CPF จะได้ประโยชน์จากการวางสินค้าอาหารผ่านเครือข่ายของ TESCO โดยคงคำแนะนำซื้อ CPALL ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท อิง PER ที่ 35x (+1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และคงคำแนะนำ ซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 38.50 บาทอิง SOTP

ด้านนายเอกสิทธิ์ คุณาดิเรกวงศ์ นักวิเคราะห์หุ้น บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า เงื่อนไขการควบรวมดังกล่าวอาจทราบหลังจาก CPALL ประกาศผลประกอบการไตรมาส3/63 ก่อน โดยมองว่าหากเป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวกับซัพพลายเออร์ ซึ่งเป็นการต่อรองทางการค้ามองว่าไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอดูเงื่อนไขดังกล่าวอีกครั้ง

โดยมองว่าประเด็นการควบรวมดังกล่าว CPALL จะได้รับผลลบระยะสั้น ในด้านดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในระยะยาวยังเป็นผลบวกเพราะ CPALL จะสามารถนำTESCO ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตไปขยายตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้ เพราะธุรกิจค้าปลีกแบบ 7-11 ยังไม่ได้รับความนิยมจากกลุ่มดังกล่าว โดยมองราคาเป้าหมายก่อนการควบรวม TESCO ไว้ที่ 74 บาท หลังจากควบรวมขอพิจารณาราคาเป้าหมายอีกครั้ง

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่าราคาหุ้น CPALL จะทยอยฟื้นตัว หลังดีลควบรวมเทสโก้ชัดเจนแล้ว โดยบอรด์ การแข่งขันทางการค้าอนุมัติให้ควบรวมแบบมีเงื่อนไข ส่งผลให้ Overhang ถูกปลดล็อก โดยแนวโน้มกำไร ไตรมาส 3/63 คาดฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ราคา ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2564 เพียง 25.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 30 เท่า เข้าสู่ระดับที่น่าสนใจเชิง Valuation

ทั้งนี้ การพิจารณาการควบรวมกิจการ กรณีกลุ่มบริษัท ซี.พี. ในนามบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (ถือหุ้นโดยซีพี ออลล์ (CP ALL) 40%, เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 40% และ ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) 20% ได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ Tesco Store (Malaysia) Sdn. Bhd. ด้วยวงเงินถึง 10,576 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 338,445 ล้านบาท ช่วงต้นเดือน มี.ค. 63

จากรายงานล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา พิจารณาได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว โดยอนุมัติให้ ควบรวมกิจการได้แต่แบบมีเงื่อนไข