เมื่อเราเฝ้ารอการมาถึงและจากไป
อากาศสงบนิ่ง เรานั่งมองท้องฟ้าและเตรียมตัวรอการมาถึงของบางสิ่งบางอย่างในวันที่พายุกำลังจะเข้ามา พายุหรือลมมรสุมในความหมายทางธรรมชาติ หรือในนัยยะคือวิกฤตที่เราต้องฟันผ่าและก้าวผ่านไปให้ได้ในการดำเนินชีวิต
การรับมือกับพายุไม่ว่าจะในความหมายโดยตรงหรือโดยอ้อมบางครั้งวิธีที่ดีที่สุดคือการเฝ้ารอ ทั้งรอการมาถึง และ รอวันที่พายุสิ้นสุดลง
หลังความเกรี้ยวกราดและรุนแรงของพายุมักทิ้งร่อยรอยของความรู้สึกเอาไว้ ผลกระทบในหลายมิติที่เราต้องเรียนรู้และจัดการกับผลกระทบ
ความไม่แน่นอน การแปรเปลี่ยนที่เราได้รับรู้ วิกฤตกับความแปรผันในห้วงเวลา
ก่อนที่พายุจะก่อตัว ท้องฟ้าและห้วงน้ำมักนิ่งสงบ เฉกเช่นวิกฤตและความแน่นอนที่มักลวงตา
ภาวะก่อนและหลังพายุ ความยุ่งเหยิง ความสงบนิ่ง มรสุม และ สายฝน มีทั้งทำลาย และ สร้างสรรค์ ชำระล้างและสร้างความอุดมสมบูรณ์ ความหวัง และ ความคาดหวัง เมื่อเรารู้วาพายุหรือวิกฤตกำลังมา สิ่งที่เราพอจะทำได้ คือ การเตรียมตัว หรือ เฝ้ารอ คาดหวังอย่างมีความหวัง การรับมือกับพายุด้วยการผ่อนปรนย่อมดีกว่าการแข็งขืนท้าทาย การยอมหลบ เลี่ยง หรือเรียนรู้ที่จะหยุดนิ่งทานทน
พายุหรือวิกฤตให้บทเรียนในหลายแง่เราต้องเลือกที่จะเรียนรู้อย่างชาญฉลาดและอ่อนโอน เมื่อผ่านพายุผ่านพ้นไปแล้วเราจะรับรู้ได้ว่าตัวเรามั่นคงและแข็งแรงขึ้นกับการยืนหยัดและผ่านพ้นพายุมาได้ เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากระบัดใบเติบโตอย่างมั่นคง
ความนิ่งสงบภายใต้สายลมหวีดหวิว ได้ครุ่นคิดทบทวน ในวิกฤตในภาวะโกลาหล ทำให้เรารับรู้ตัวตนของเรา
#เม่าชรา