24 ปีที่รอยคอย ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล?
ในที่สุดดัชนีตลาดหุ้นไทยก็สามารถปรับตัวขึ้นไปทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลนับตั้งแต่มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 42 ปีที่แล้ว นับเป็นการปรับตัวขึ้นมาในรอบนี้แบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว โดยวันที่ 4 มกราคม ปี พ.ศ 2561 ช่วงเปิดตลาด ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดตลาดกาล ที่ 1789.91 จุด ทั้งนี้ จุดสูงสุดตลอดกาล ของตลาดหุ้นไทยที่เคยทำไว้ครั้งก่อนคือ 1,789.16 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเมื่อ วันที่ 5 มกราคม ปี พ.ศ 2537 ครบรอบ 24 ปีพอดิบพอดี
ในการปรับขึ้นของดัชนีที่สามารถทำลายสถิติได้นั้น พบว่าหุ้นหลายตัวโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่กันแบบต่อเนื่องด้วยเช่นกัน นำโดย AOT, PTT, IVL, IRPC, CPALL,GULF และ KBANK เป็นต้น นอกจากนี้การซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างหนาแน่นวอลุ่มทะลักวันละ 7-8 หมื่นล้านบาทนั้นก็มีเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่แทบทั้งสิ้น โดยกระจายกันไปในทุกกลุ่ม ทั้งพลังงาน สื่อสาร แบงก์ ค้าปลีก ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยตั้งแต่วันแรกของการซื้อขายในปี 61 นี้
หลังจากดัชนีเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างรวดเร็วแล้วนั้น ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องยอมรับว่าวันนี้ ทั้งกูรู นักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ค่อนข้างชัดเจน นอกเหนือจากการทำลายจุดสูงสุดเดิมได้เท่านั้น ยังมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะไม่ต่ำไปกว่า 1,800 จุด จากปัจจัยสนับสนุน ก็คือภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ดูดีขึ้นแทบทุกส่วน ปัจจัยการเติบโตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เป็นแรงผลักดันการส่งออกไทยให้กลับมาเป็นตัวแปรสำคัญขับเคลื่อนการขยายตัวของ GDP ให้ออกมาดีกว่าคาด
เชื่อมั่นประเทศไทยเชื่อมั่นตลาดทุน ตลาดทุนคงต้องเดินหน้าไปสู่เป้าหมายถัดไปที่คาดหวังกัน จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการที่ตลาดสามารถมายืนในจุดที่ดีที่คาดหวังกันได้เร็วกว่าที่คาดกันเอาไว้มาก ในช่วงนี้การลงทุนของนักลงทุนแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะกองทุนในประเทศกับนักลงทุนต่างประเทศที่น่าจะมีมุมมองต่อตลาดหุ้นไปในทิศทางเดียวกัน และมองทางซื้อเหมือนกันสถิติถึงถูกทำลายลงอย่างง่ายดายราบคาบ แล้วเราเหล่านักลงทุนทั่วไปควรต้องเตรียมตัวกันอย่างไรดี
นักลงทุนแต่ละคนมีความคิด มีแนวทางในการลงทุนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าสถานการณ์ของตลาดจะเป็นอย่างไร สำหรับนักลงทุนที่ดีควรต้องมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน เมื่อตลาดเกิดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้จังหวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ นักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จจากการลงทุนในตลาดทุนนั้นจำเป็นต้องฝึกฝนปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด ทั้งการขวนขวายหาความรู้เรียนรู้เพิ่มเติมที่ปัจจุบันมีให้เรียนรู้กันอย่างมากมาย ทั้งจากหนังสือ สื่อออนไลน์ จากประสบการณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการลงทุนของเรา การพยายามเข้าถึง ให้รู้ลึกรู้จริงในข้อมูลกระแสข่าวต่างๆที่มีอยู่มากมาย วิเคราะห์แยกแยะและประเมินได้ว่าข้อมูลข่าวสารต่างๆนั้นเป็นจริงหรือเท็จ ประเมินวิเคราะห์ไตร่ตรองและเห็นถึงความเป็นไปได้อนาคตที่ดีของหุ้นที่เราสนใจบนเหตุผลปราศจากอารมณ์ ก็จะทำให้เราสามารถเลือกลงทุนในหุ้นได้ถูกตัว
ความมั่นใจในการลงทุน มักจะเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนเองสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงได้ และประเมินรู้ได้ถึงอนาคตของมูลค่าหุ้นว่าอยู่ตรงไหน เมื่อตลาดหรือราคาหุ้นมีการแกว่งตัวไปในทิศทางใดก็ตามโดยที่พื้นฐานที่แท้จริงที่เราประเมินรู้แล้วนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัย จิตใจของนักลงทุนก็จะไม่ไขว้เขว จิตตกวิตกกังวล แต่กลับจะนิ่งมีสมาธิที่พร้อมจะวางแผนเพื่อการลงทุนอย่างมีสติมั่นคง บนความรู้จริงของเรานั่นเอง นี่คือสิ่งที่นักลงทุนที่มีความพร้อมต่อการลงทุนในหุ้นเป้าหมาย เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างชัดเจน เมื่อนั้นการลงทุนในหุ้นเป้าหมายก็จะสามารถเดินไปสู่ความสำเร็จที่ดีที่พึงหวังได้แน่นอนครับ
สรุปว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้เดินมาสู่เป้าหมายที่รอคอยและคาดหวังกันได้แล้ว ส่วนตลาดจะเดินหน้าไปต่อ ทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับใด คงไม่สำคัญเท่า การลงทุนของนักลงทุนนั้นได้เดินไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ได้ด้วยหรือไม่ ตรงนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะหากตลาดทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง แต่ผลลัพท์การลงทุนของเราเองยังสร้างผลตอบแทนได้ไม่ดีอย่างที่พึงหวัง ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่ดัชนีจะทำจุดสูงสุดต่อไปเรื่อยๆ ครับ