โดย Edrink
เผยแพร่ : 
62 viewsราคาน้ำมันดิบพุ่ง เหตุกังวลการผลิตตึงตัว หลังรัสเซียปฏิเสธการเจรจาสันติภาพ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 ว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันพุธ เนื่องจากความกังวลว่าผลผลิตที่ลดลงจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก จะส่งผลต่อกำลังการผลิต หลังจากที่รัสเซียกล่าวว่าการเจรจาสันติภาพเพื่อแก้ไขการรุกรานยูเครนได้สิ้นสุดลง
โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 0.6% สู่ 105.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (00.53 GMT) ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.6% เป็น 101.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้งสองฉบับพุ่งขึ้นมากกว่า 6% ในช่วงก่อนหน้า
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวโทษยูเครนที่ขัดขวางการเจรจาสันติภาพ และกล่าวว่ารัสเซียจะไม่ยอมละทิ้งสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร" เพื่อปลดอาวุธเพื่อนบ้านทางตะวันตก
“ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวว่าการเจรจาสันติภาพกับยูเครนกำลังถึงทางตัน ในขณะที่แนะนำว่าการรุก 7 สัปดาห์กำลังจะมีการวางแผน สิ่งนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องที่การผลิตจะหยุดชะงักในตลาดน้ำมัน” นักวิเคราะห์น้ำมันของ ANZ กล่าว ในบันทึกย่อ
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันและก๊าซคอนเดนเสทของรัสเซียลดลงต่ำกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เนื่องจากการคว่ำบาตรจากหลายประเทศหลังจากรัสเซียบุกยูเครนและข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์ขัดขวางการค้า
ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ระบุว่านิโคไล ชูลจินอฟ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานรัสเซีย กล่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ว่าประเทศพร้อมที่จะขายน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันให้กับประเทศที่เป็นมิตรในทุกช่วงราคา และเสริมว่ารัสเซียให้ความสำคัญกับการทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันยังคงเดินหน้าต่อไป
ในขณะเดียวกันรายงานที่เกิดขึ้นใหม่เกี่ยวกับการผ่อนคลายบางส่วนของการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของ COVID-19 ของจีนบางส่วนได้ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาดเชิงบวกในหมู่ผู้เล่นในตลาดบางรายในสัปดาห์นี้
ในทำนองเดียวกันความต้องการเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะแข็งแกร่ง เนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 5 ล้านบาร์เรล
