'คลื่นยักษ์' แห่งการเปลี่ยนแปลง โอกาสทองของไทย เมื่อโลกเปลี่ยนขั้วสู่ 'อาเซียน 4.0'
By จุลวรรณ เกิดแย้ม
- ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้ไทยกลายเป็นฐานการลงทุนและการผลิตแห่งใหม่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอนาคตอย่างรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และศูนย์ข้อมูล (Data Center)
- กระแสการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยต้องเร่งปรับตัวและลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลก
- การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสให้ไทยสร้างธุรกิจใหม่เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ในขณะที่โลกกำลังจับตาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน ใครจะคิดว่าคลื่นความขัดแย้งนี้จะซัดพา "โอกาส" มาสู่ประเทศไทย รายงานล่าสุดเปิดเผยภาพที่น่าสนใจว่า เมื่อจีนเริ่มเบนเข็มการส่งออกจากสหรัฐฯ มายังภูมิภาคอื่น ๆ การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนและไทยกลับเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นหมายความว่าประเทศไทยกำลังถูกดึงเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่ที่กำลังก่อตัว
โอกาสของไทย
เจียง เหว่ย อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวในงาน ว่า “TCP Sustainability Forum 2025” ว่าการย้ายฐานการผลิตที่เคยตั้งในจีนก็กำลังไหลบ่าเข้ามาในภูมิภาคของไทย ทำให้ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 พุ่งสูงถึง 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับยอดรวมทั้งปี 2565 การลงทุนเหล่านี้ไม่ได้มาในรูปแบบเดิม ๆ แต่เป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV), ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และอิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นี่คือสัญญาณบ่งชี้ว่าไทยกำลังมีโอกาสก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตระดับโลกอีกครั้ง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อนในยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุน
เปลี่ยนผ่านสู่ 'เศรษฐกิจสีเขียว' ใครช้าไป คนนั้นแพ้
แม้ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมจะดูเหมือนถูกลดความสำคัญลงไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง และอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติกำลังเป็นสัญญาณเตือนให้ทั่วโลกต้องกลับมาให้ความสำคัญกับ Green Transition อย่างจริงจัง ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่รอได้อีกต่อไป แต่เป็นช่วงเวลา 2-3 ปีทองที่ไทยต้องเร่งปรับตัว เตรียมพร้อมสำหรับการออกกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และเร่งลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวต่าง ๆ เช่น โซลาร์เซลล์ ที่มีต้นทุนถูกลงอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจที่ปรับตัวก่อน ไม่เพียงแต่จะอยู่รอด แต่ยังได้เปรียบในการแข่งขันในเวทีโลกยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นเรื่อย ๆ
AI และเทคโนโลยีชีวภาพ จุดเปลี่ยนที่ไม่ควรมองข้าม
การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ หุ่นยนต์ ที่กำลังเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ เทคโนโลยีชีวภาพ ที่อาจเข้ามาท้าทายอุตสาหกรรมเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมของไทย เช่น การผลิตเนื้อสังเคราะห์หรือไข่สังเคราะห์
อุตสาหกรรมดั้งเดิมที่เคยเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นโอกาสในการสร้างสรรค์ "พื้นที่ใหม่" ทางธุรกิจ หากผู้ประกอบการไทยสามารถมองเห็นและปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ก่อน เราก็จะมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
โอกาสที่ต้อง "คว้า" ไม่ใช่แค่ "รอ"
โลกกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ ซึ่งนำมาซึ่งความท้าทาย แต่ในเวลาเดียวกัน ก็คือ "โอกาสทอง" ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน และกำลังหวนกลับมาอีกครั้งในวันนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือผลลัพธ์จากพลวัตโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากประเทศไทยสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ทั้งจากการเป็นฐานการลงทุนแห่งใหม่ การเป็นผู้นำในเศรษฐกิจสีเขียว และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เราก็จะมีโอกาสสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และก้าวขึ้นสู่การเป็น "อาเซียน 4.0" ที่แข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน
ที่มา. https://www.bangkokbiznews.com/environment/1195177