ห้องเม่าปีกเหล็ก

MAKRO ลุยปรับโครงสร้างหนี้

โดย สุดสวย
เผยแพร่ :
192 views

MAKRO ลุยปรับโครงสร้างหนี้

กดดอกเบี้ยจ่ายครึ่งปีหลังลดลง

พร้อมเดินหน้าขยายสาขาต่างประเทศ

.

MAKRO คาดไตรมาส 2/66 ยอดขายแม็คโครอาจชะลอจากไตรมาสก่อนหน้า ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังเติบโตระดับ high single digits ส่วนยอดขายโลตัสคาดทรงตัวที่ระดับ 0.5% ย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง เดินหน้าชำระหนี้ล่วงหน้ากลุ่มค้าปลีก หนุนดอกเบี้ยจ่ายช่วงครึ่งปีหลังลดลง คาดเปลี่ยนชื่อเป็น ซีพี แอ็กซ์ตร้า คาดแล้วเสร็จเดือนมิ.ย. นี้

.

นางสาวศิริพร วิธานนิติธรรม ที่ปรึกษา-นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/66 คาดว่ายอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจค้าส่ง (Wholesale) หรือแม็คโคร จะเติบโตในระดับ high single digits ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า (โรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง) ที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ SSSG อาจปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ระดับ 10.9% จากปัจจัยด้านฤดูกาล

.

ส่วนแนวโน้ม SSSG ของธุรกิจค้าปลีก (Retail) หรือโลตัส คาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวจากไตรมาส 1/66 ที่ 0.5% เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่เห็นแนวโน้มที่ดีในจังหวัดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ โดย SSSG กลับมาขยายตัวในระดับ 2 หลัก

.

ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายสาขาตามแผน โดยแม็คโครมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในไทยจำนวน 12 สาขา แบ่งเป็น แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส จำนวน 8 สาขา และแม็คโคร คลาสสิค จำนวน 4 สาขา ส่วนการขยายสาขาแม็คโครในต่างประเทศ บริษัทจะเน้นประเทศที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว คือ อินเดีย จีน เมียนมา และกัมพูชา โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่รวมประมาณ 4-6 สาขา ซึ่งสิ้นไตรมาส 1/66 บริษัทขยายสาขาไปแล้ว 1 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันแม็คโครมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 163 สาขา จากสิ้นปี 2565 ที่ 162 สาขา

.

ขณะที่โลตัสบริษัทมีแผนจะขยายสาขาโลตัส ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทั้งในไทยและมาเลเซียรวมกันประมาณ 10-14 สาขา ส่วนโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีแผนจะเปิด 3-4 สาขา และโลตัส โกเฟรช มีแผนจะเปิดเพิ่มประมาณ 100-150 สาขา โดยสิ้นไตรมาส 1/66 บริษัทขยายสาขาไปแล้ว 11 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันโลตัสมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 2,654 สาขา จากสิ้นปี 2565 ที่ 2643 สาขา

.

นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายนอกร้านประมาณ 15-20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยสิ้นไตรมาส 1/66 อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy rate) ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายสาขาใหม่และการปรับพื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่เช่า ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากการขายนอกร้านอยู่ที่ 11%

.

อย่างไรก็ตาม ฐานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง แม้เงินสดจะปรับตัวลงแต่จำนวนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน โดยบริษัทได้ชำระหนี้ล่วงหน้าในกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย Interest bearing debt สิ้นไตรมาส 1/66 ลดลงเหลือ 95,000 ล้านบาท จาก 111,662 ล้านบาทในสิ้นปี 2565 ซึ่งหากคิดเป็นหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (interest bearing debt to equity : IBD/E ratio) จะอยู่ที่ระดับ 0.32 เท่า จากสิ้นปีก่อนที่ 0.38 เท่า

.

และยังได้ชำระคืนหนี้ในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน 760 ล้าน ส่งผลให้สิ้นไตรมาส 1/66 สัดส่วนหนี้ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลงมาอยู่ที่ 18% จากเดิมที่ 38% ของสัดส่วนหนี้ทั้งหมด รวมถึงทำให้สัดส่วนอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและดอกเบี้ยคงที่อยู่ในสัดส่วนเท่ากัน

รวมถึงในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้จำนวน 31,500 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระหนี้ระยะยาวในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทบางส่วน อย่างไรก็ตาม จากความพยายามในการบริหารจัดการหนี้ในช่วงไตรมาส 1/66 และ 2/66 ทำให้บริษัทเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ดอกเบี้ยจ่ายจะปรับตัวลดลงแน่นอน

.

“ประเมินภาพรวม SSSG ทั้งปี 2566 ของแม็คโครจะเติบโตในระดับ mid to high single digits ส่วนโลตัสคาดว่าจะอยู่ในระดับ mid-high single digits ตามกำลังซื้อที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง รวมถึงการรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2/66 ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น ส่วนการเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือชื่อย่อหุ้น CPAXT คาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย. นี้” นางสาวศิริพร กล่าว

 

 


สุดสวย