จับตาสภาพัฒน์ ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 หลังสหรัฐเคาะเก็บภาษีไทย 19%
ลุ้น สศช.ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยปี 68 ขึ้นจากกรอบเดิม 1.3 - 2.3% คาดปรับกรอบล่างให้เพิ่มขึ้นดันค่ากลางจีดีพีแตะ 2% หลังตัวเลขส่งออกครึ่งปีแรกโตแรง 15% ภาษีสหรัฐชัดเจน

วันที่ 18 ส.ค.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเป็นผู้แถลง
โดยแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ที่ขยายตัวได้ 3.1% จากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี จากการเร่งรัดการส่งออกของผู้ผลิตที่ส่งสินค้าไปขายยังสหรัฐก่อนเส้นตายการปรับขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐ โดยการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีมูลค่า 166,851.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15%
ทั้งนี้ในการแถลงจีดีพีไทยไตรมาสที่ผ่านมา สศช.ได้มีการปรับคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 2568 ลดลงจาก 2.3 – 3.3% (ค่ากลางของการประมาณการอยู่ที่ 2.8%) เหลือเพียง ขยายตัว 1.3 – 2.3% (ค่ากลางการประมาณการอยู่ที่ 1.8%) เพื่อรองรับผลกระทบของความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ทั้งนี้การปรับคาดการณ์จีดีพีในครั้งนี้อาจไม่ได้ปรับกรอบตัวเลขแต่อาจปรับสมมุติฐานช่วงคาดการณ์จีดีพีให้แคบลง ซึ่งทำให้ค่ากลางของจีดีพีมาอยู่ในระดับ 2%
โดยการปรับประมาณการจีดีพีของสศช.สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดจีดีพีของหน่วยงานเศรษฐกิจต่างๆทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีความชัดเจนเรื่องของการประกาศอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สหรัฐเรียกเก็บจากไทยอยู่ที่อัตรา 19% ซึ่งแม้ว่าจะสูงกว่าที่ สศช.คาดการณ์ไว้ที่ 18% แต่เนื่องจากอัตราภาษีที่ประกาศออกมามีความใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาคทำให้แรงกดดันต่อเศรษฐกิจไทยนั้นลดลง ขณะเดียวกันตัวเลขการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่หน่วยงานเศรษฐกิจคาดการณ์ไว้
ก่อนหน้านี้หน่วยงานเศรษฐกิจที่ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและจัดทำโมเดลการคาดการณ์เศรษฐกิจได้ทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2568 ดังนี้
1. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีไทยเป็น 2.3% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือน เม.ย.ว่าจีดีพีไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2% และในกรณีที่การเจรจาภาษีกับสหรัฐไม่บรรลุผลจีดีพีไทยอาจโตได้เพียง 1.3%
2. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ล่าสุดในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีไทยจากเดิม 2.1% เป็น 2.2% โดย สศค. ชี้ว่าแรงหนุนมาจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม การส่งออกที่ดีกว่าคาด การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนที่ยังมีแรงส่งไปถึงเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
3. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 1.8% ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ในการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจของไทยในครั้งต่อไปจะมีการปรับคาดการณ์ตัวเลขเพิ่มขึ้น รับกับตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในการบริหารเศรษฐกิจปีนี้ สศช.ให้น้ำหนักการบริหารเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ในประเด็นสำคัญๆ ได้แก่
1) การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เม็ดเงินรายจ่ายภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเร็วเพื่อรักษาแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐ
2) การดำเนินการเพื่อรองรับการยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสำคัญ
3) การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม
4) การให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่องเนื่องจาก คุณภาพสินเชื่อปรับลดลงต่อเนื่อง
5) การดูแลการผลิตภาคเกษตรและรายได้เกษตรกร
และ 6) การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา. https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1194490