วิกฤติไวรัสโควิด 19 ในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นพฤติกรรมของคนทั่วโลกที่เปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มใช้ชีวิตในโลกออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะซื้อของ สั่งอาหาร เติมเงิน โอนเงินให้เพื่อน หรือแม้แต่บริจาคเงิน จนกลายเป็น new normal สำคัญของโลกใบนี้ จนมีผู้กล่าวไว้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะเหมือนคลื่นสินามิของโลกการชำระเงินเลยทีเดียว
และแน่นอนว่า new normal ยังรวมไปถึงการใช้ digital payment ที่ช่วยให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ สามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัด เรามาเริ่มดูกันที่ประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศจีน แนะนำให้ประชาชนใช้ digital payment แทนการซื้อสินค้าด้วยเงินสด ห้ามการเคลื่อนย้ายเงินสดระหว่างมณฑล และฆ่าเชื้อโรคบนธนบัตรอย่างเข้มงวด ขณะที่แคนาดา ซึ่งมี Payments Canada เป็นผู้ดูแลระบบ clearing และ settlement ของประเทศ เชื่อว่าโควิด 19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้ digital payment อย่างก้าวกระโดด และจะเปลี่ยนวิถีการชำระเงินของประเทศไปตลอด เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ที่ Development Bank of Singapore ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ให้ข้อมูลว่าปริมาณธุรกรรม digital payment ในช่วงการระบาดนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในไตรมาสแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดต่อไป แม้เจ้าไวรัสร้าย โควิด 19 จะหายไปจากโลกนี้แล้วก็ตาม
มีการเปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมการใช้ Mobile Banking และระบบ E-wallet จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ภายหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในไทยคลี่คลายลง ยังมีผู้บริโภคที่ใช้งาน Mobile Banking และ e-Wallet มากขึ้น ขณะที่มีผู้บริโภคกลุ่มใหม่เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยผู้บริโภคในช่วงวัย 35-44 ปี เป็นกลุ่มที่เข้ามาใช้ Mobile Banking และ e-Wallet เพิ่มขึ้น จากเดิมที่การใช้งานกระจุกตัวอยู่ที่ช่วงวัย 25-34 ปี สะท้อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันต่อการใช้งาน Mobile Banking และ e-Wallet ให้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และนำมาซึ่งการแข่งขันในตลาดที่เข้มข้น
นอกจากนี้ ลักษณะแอปพลิเคชัน Mobile Banking และ e-Wallet 3 อันดับแรก ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในปัจจุบัน ได้แก่
1) แอปพลิเคชันที่สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วยการรวมทุกบัญชีออนไลน์ไว้ในแอปพลิเคชันเดียว
2) แอปพลิเคชันที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน เช่น การเป็นแพลตฟอร์ม Food Delivery หรือ e-Market place ในตัวเอง เป็นต้น
3) แอปพลิเคชันที่มี Feature การใช้บัตรเครดิต ซึ่งลักษณะทั้ง 3 ประการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ผู้ให้บริการ Mobile Banking และ e-Wallet จะต้องเผชิญในการพัฒนา Feature การใช้งานให้สามารถอำนวยความสะดวกและสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นแอปพลิเคชันที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกเป็นอันดับแรก
ผู้ให้บริการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Mobile Banking และ e-Wallet ในไทยยังมีโอกาสเติบโตในระยะข้างหน้า ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 คลี่คลาย แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดที่เข้มข้นจากการเข้ามาของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการ e-Wallet
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในระยะข้างหน้าจะยังเห็นบรรยากาศการแข่งขันในการทำกลยุทธ์ด้านราคาและโปรโมชั่นของกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยน่าจะเป็นการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการเปิดใช้บริการของทั้งทางฝั่งของกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ การให้ส่วนลดสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการในร้านค้าที่ร่วมรายการ การให้คูปองเงินสดสำหรับการเปิดใช้บัญชี การสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล เป็นต้น
เรียบเรียงข้อมูล : marketeeronline
ภาพประกอบ : สมาคม Thai-Cashless-Society