BJC ครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วง High Season

Oppday BJc วันนี้ครับ ชมสดได้ที่ youtube ของตลาดหลักทรัพย์

สรุป

- BJC ตั้งลงทุนรวมปีนี้ราว 1 หมื่นล้านบาทเน้นที่ Hypermarket จำนวน 8 สาขา และธุรกิจ Mini Big C อีก 200 สาขาทั่วประเทศ

- BJC คาดว่า Same Store Sale Growth จะพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากที่ครึ่งปีแรกติดลบ 0.2%

- โรงงานบรรจุภัณฑ์ SB5 สามารถเพิ่มกำลังการผลิตอีก 400 ตัน/วัน เพิ่มขึ้นราวๆ 12-13%

บทวิเคราะห์ว่าอย่างไร

บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกกับ BJC SSSG ของ BIGC กลับมาเติบโตเป็นบวกที่ +3.7%YoY ในเดือนก.ค.2018 เทียบกับ -0.5% YoY ใน 2Q18ซึ่งยอดขายของ BIGC ค่อนข้างอ่อนตัวจากฝนที่ตกเร็วกว่าปกติ แต่กลับมาฟื้นตัวได้ กำลังซื้อมีแนวโน้มฟื้นตัวใน 2H18เนื่องจากราคาพืชผลเกษตรรวมถึงปศุสัตว์ปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนภาวะการส่งออกที่ดี ธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ธุรกิจขนมและกระดาษทิชชู่ยังคงดีในเวียดนาม BJCยังคงขยายสาขาต่อเนื่องและจะเข้าสู่ High season ช่วงปลายปี

ประเมินมูลค่าอิงDCF (WACC 7%, terminal growth 3%) ได้ราคาเหมาะสมที่ 72.0 บาท ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายอยู่ที่ PER 34 เท่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย แต่ธุรกิจของ BJC เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคพื้นฐานและเติบโตโดยมีความ defensive จึงให้ราคาเป้าหมายคิดเป็น 43 เท่า (+1SD) คงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไรทั้งปีนี้เติบโต 26% จากการบริหารรูปแบบสาขาและต้นทุนที่ดี ทำให้กำไรยังคงเติบโต 26%ในปี 2018 กำไร1H18 เป็น 43% ของกำไรสุทธิทั้งปี แต่ยังคงประมาณการเนื่องจากครึ่งปีหลังเป็น High season บริษัทยังคงเป้าหมายขยายสาขาบิ๊กซีรวมจำนวน 208 สาขา แบ่งเป็น ขยายสาขาประเภท บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ (ไฮเปอร์มาร์เก็ต) จำนวน 8 สาขา และขยายสาขาประเภท มินิ บิ๊กซี จำนวน 200 สาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงสาขาเดิม จำนวน 13 สาขา โดยการขยายพื้นที่เพิ่มจำนวน 2 สาขา รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีซึ่งจะลดอัตราภาษีจ่ายจาก 26% เหลือ 20%