THAI เทรดวันสุดท้ายก่อน “Landing” แต่ทำไมราคาหุ้นถึงพุ่งชนชิลลิ่ง ?
วันสุดท้ายแล้วที่หุ้นของ THAI จะสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้ง หลังจากนั้น ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย “SP” หุ้น THAI ต่อไป อย่างไม่มีกำหนดว่าจะปลดการห้ามซื้อขายอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ทำไมราคาหุ้นกลับพุ่งชนชิลลิ่ง เราจะไปหาคำตอบกัน
“Cabin Crew be Seated for Landing” เมื่อผู้โดยสารได้ยินคำนี้แล้วก็คงจะแปลความหมายได้ว่าถึงเวลาที่เครื่องจะลงสู่จุดหมายปลายทางที่กำหนด หรือเสร็จสิ้นการเดินทางกันแล้ว เช่นเดียวกันหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้อนุญาตให้ปลดเครื่องหมาย “SP” เป็นเวลาชั่วคราว 1 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. จนถึงวันนี้ (17 พ.ค.64)
โดยในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดให้สามารถกลับมาซื้อขายได้อีกครั้งวันแรกหุ้นของ THAI ปิดตลาดที่ 2.40 บาท ลดลง 41.18% หรือลดลง 1.68 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 538 ล้านบาท ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่านักลงทุน ไม่สนใจในธุรกิจการบินแล้วก็เป็นได้ เพราะหากดูไส้ในของธุรกิจและแผนการเติบโตในอนาคตมองว่า ธุรกิจการบินมีการแข่งขันที่สูงมากในปัจจุบัน และในอนาคตอันใกล้ก็ยังไม่สามารถกลับมาได้ เพราะด้วยสภาวะการระบาดของโควิด19 ที่ยังยืดเยื้ออยู่ ดังนั้นกว่าที่ธุรกิจจะฟื้นกลับมาคงจะต้องใช้เวลาพอสมควร
แต่อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายหุ้น THAI ในช่วงเช้ากลับพบว่าราคาหุ้นสามารถไต่ระดับขึ้นไปชนชิลลิ่งที่ 3.32 บาทต่อหุ้น จึงเป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น และนักลงทุนมองเห็นอะไรในหุ้นของ THAI ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจริงๆแล้วกระบวนการนัดเจ้าหนี้ประชุมอาจจะต้องแล้วเสร็จในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้บางรายยังไม่พอใจกับแผนที่ THAI จัดทำ ดังนั้นจึงทำให้ต้องเลื่อนการพิจารณาการโหวตแผนออกไปอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ค.64 นั่นก้หมายความว่าจะเลื่อนระยะเวลาของการกลับมาออกไปอีก
ดังนั้น Wealthy Thai จึงได้สอบถามไปยังนักวิเคราะห์ถึงประเด็นว่าสาเหตุอะไรที่ราคาหุ้นของ THAI วันที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดให้ซื้อขายเป็นวันสุดท้ายนั้นถึงพุ่งแรงขนาดนี้ โดยคุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า นักลงทุนอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน เพราะว่าการดึงราคาขึ้นไปแบบนี้ในช่วงวันสุดท้ายก่อนที่จะหยุดซื้อขายนั้น การปรับโครงสร้างบริษัทอาจจะสามารถกลับมาเทรดได้อีกครั้ง เพราะท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่าภาครัฐจะยังคงสนับสนุนบริษัทธุรกิจการบินรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะเห็นได้จากในช่วงที่การบินเกิดวิกฤตต่างๆที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันมองว่าการปรับโครงสร้างหนี้ของ THAI ในครั้งนี้หากเป็นไปตามความคิดส่วนตัวคาดว่าจะใช้เวลาหลายปีกว่าที่การบินไทยจะกลับมามีผลประกอบการที่เติบโตและอยู่ได้ด้วยผลประกอบการของบริษัทอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงแนะนำว่าไม่ควรเข้าไปไล่ระดับราคา แนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต หรือหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโต
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก