อย่ามาจิ๊...จ๊ะให้มันมากไป!!! เกาหลีใต้งัด KYC เข้มลั่น เอาอยู่ "แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ"

══════════════
ก็ลองดูสิ! หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้เผย “กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ” โจมตีหนักในโลก DeFi คาดปีหน้าหนักกว่านี้ แต่มั่นใจ “เอาอยู่” หลังงัดมาตรการ KYC เข้มข้นส่งผลให้สินทรัพย์นั้นปลอดภัย!
.
.
หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ (NIS) เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ ขโมยคริปโทมูลค่ากว่า 800 พันล้านวอน (620 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จากแพลตฟอร์มทางการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ในปีนี้ พร้อมเผยด้วยว่าจากการดำเนินการทดสอบโดยองค์กรแฮ็กระดับชาติและนานาชาติในเดือนพฤศจิกายน พบว่า ทาง NIS สามารถหยุดการโจมตีได้เฉลี่ย 1.18 ล้านครั้งต่อวัน
.
โฆษกของ NIS เปิดเผยผ่านสำนักข่าวท้องถิ่น Kyunghyang Shinmun ว่า เงินจำนวน 620 ล้านดอลลาร์ที่ถูกขโมยโดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือผ่าน DeFi นั้น เกิดขึ้นในต่างประเทศไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเกาหลีใต้
.
“ในเกาหลีใต้ ธุรกรรมสินทรัพย์เสมือน ถูกเปลี่ยนเป็นธุรกรรมโดยใช้ชื่อจริงและความปลอดภัยก็แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้น จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย” NIS กล่าวเสริม
.
ในปี 2021 เกาหลีใต้ได้ดำเนินการใช้กฏการยืนยันตัวตนแบบใหม่ (KYC) ในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งกำหนดให้ลูกค้าต้องสร้างบัญชีชื่อจริงกับธนาคารเดียวกันกับกระดานเทรดเพื่อฝากหรือถอนเงิน จากนั้นทั้งธนาคารและกระดานเทรดจำเป็นต้องยืนยันตัวตนของลูกค้า
.
นอกจากนี้ บริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานอิสระ สมาชิกขององค์การคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ (FSC) ก่อนที่จะเริ่มกิจการอีกด้วย
.
กลุ่มแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือ เช่น Lazarus Group มีความเกี่ยวข้องกับการโจมตี DeFi ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากในปีนี้ รวมถึงการโจมตีบล็อกเชนของ Harmony มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าว เป็นวิธีการสร้างทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ท่ามกลางการคว่ำบาตรทางการค้า ซึ่งกำหนดโดยประชาคมระหว่างประเทศ
.
นอกจากนี้ หน่วยงาน NIS ยังย้ำเตือนอีกด้วยว่า การโจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือจะทวีความรุนแรงขึ้นในปีหน้า โดยระบุว่า
.
“เราจำเป็นต้องวิเคราะห์การโจมตีให้ใกล้เคียงกับการป้องกัน โดยอย่าลืมว่าเพียงหนึ่งองค์กรของแฮ็กเกอร์นั้นมีข้อมูลการโจมตีทั้งหมด จึงจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสที่เป็นอันตรายซึ่งกระจัดกระจายจากผู้ที่มาโจมตีต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่อาจนำไปสู่การโจมตีเราได้”
.
.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
.
[แฮกเกอร์เกาหลีเหนือขโมยคริปโทรวมแล้ว 1.7 พันล้านดอลล์ คาดนำไปลงทุนเอง]
https://www.efinancethai.com/Laste.../LatestNewsMain.aspx...
.
[สหรัฐ สั่งคว่ำบาตร `Tornado Cash` แพลตฟอร์มอำพรางธุรกรรมคริปโทชื่อดัง]
https://www.efinancethai.com/Laste.../LatestNewsMain.aspx...
.
[เกาหลีใต้มีแผนนำบล็อกเชนมาใช้ในการยืนยันตัวตน ภายในปี 2024]
http://www.efinancethai.com/Lastes.../LatestNewsMain.aspx...
.
.
ที่มา: https://cointelegraph.com/.../north-korean-hacking...
-----------------------------------