“สนใจอยากเล่นหุ้น แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แนะนำหน่อยได้ไหม ?” เป็นคำถามที่เหมียวเจอบ่อยเอามากๆ เหมียวบินเลยถือโอกาสรวบรวมขั้นตอนการเล่นหุ้น ตั่งแต่นับหนึ่ง แบบยั่งยืนให้เพื่อนๆที่สนใจอยากเล่นหุ้นลองอ่านกันดูครับ
1.ตั้งเป้าหมาย
ขั้นแรกหากคุณคิดจะ เล่นหุ้น คือ คุณต้องรู้เสียก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากตลาดหุ้น ความสนุก ความเร้าใจ หรือความมั่งคั่ง เงินทอง ความมั่นคง จากการลงทุนในตลาดหุ้น ผมว่าหลายคนมีคำตอบอยู่แล้วแน่นอน แต่เชื่อเถอะครับเท่านั้นยังไม่พอสำหรับการตั้งเป้าหมายที่ดีในการลงทุนในตลาดหุ้น คุณควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนกว่านั้น ว่าคุณอยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไร 3-5% ต่อปี หรือ 20% ต่อปี เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการหาแนวทางและวิธีการเพื่อพาคุณไปยังสิ่งที่คุณฝันไว้
2.สำรวจตัวเองว่าการลงทุนแบบไหนเหมาะกับตัวเรา
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือของเซียนหุ้นที่มีขายอยู่ตามร้านขายหนังสือทั่วไป คงจะสังเกตุได้ว่า เซียนหุ้นเหล่านั้นจะแบ่งตัวเองออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยวิธีคิด วิธีตัดสินใจในการลงทุนที่ต่างกัน คือ นักลงทุน (VI) กับ นักเก็งกำไร(trader) ดังนั้นขั้นตอนต่อไปหลังจากที่คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลงทุนครั้งนี้แล้ว คุณก็ควรสำรวจตัวเองแบบคร่าวๆสักครั้งว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน และชอบการลงทุนรูปแบบไหน ความแตกต่างระหว่างนักลงทุน กับ นักเก็งกำไร และที่สำคัญคือ การลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา
3.ศึกษาหาความรู้เฉพาะทาง และไม่เฉพาะทาง
อย่างที่ทราบจากขั้นตอนก่อนหน้านี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคร่าวๆคือ นักลงทุน (VI) กับ นักเก็งกำไร(trader) เซียนหุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้ไม่ได้ถูกแบ่งออกมาด้วยรูปร่างหน้าตา หรือความรวย แต่ถูกแบ่งออกมาด้วย กลยุทธ์ รูปแบบ วิธีการลงทุนที่ค่อนข้างต่างกันในการเลือกซื้อหุ้นแต่ละตัว เช่นนักลงทุน จะเลือกซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานบริษัทดี ส่วนนักเก็งกำไรจะใช้กราฟในการตัดสินใจซื้อขายเป็นหลัก หากคุณอยากเป็นคนแบบไหน ก็ควรศึกษารูปแบบวิธีการ และความรู้ต่างๆที่เขาใช้
แต่ไม่ได้หมายความให้คุณ เหยีด ความรู้ หรือเหยีดวิธีการเล่นหุ้นของอีกฝ่าย เช่น ถึงแม้ว่าคุณเป็นนักเก็งกำไร ที่เชื่อกราฟราคา และเทคนิคต่างๆในการซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งคุณก็ไม่ควรจะศึกษาหาความรู้แค่เรื่องของกราฟ เรื่องของเทคนิคเพียงด้านเดียว การศึกษาเรื่องพื้นฐานการเงินของบริษัทต่างๆเองก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีในการตัดสินใจซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งได้เหมือนกัน “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม”
4.ทำความเข้าใจเรื่องความเสี่ยง
“การเล่นหุ้นมีความเสี่ยง และจะ โค-ตะ-ระ เสี่ยง หากคุณไม่รู้วิธีควบคุมความเสี่ยง” เรื่องของการจัดการความเสี่ยง จัดการเงินทุน หรือที่เรียกหล่อๆว่า Money Management นั้นสำคัญเสียยิ่งกว่าการหาหุ้นเทพ หรือเทคนิคการดูกราฟที่แม่นยำซะอีก เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การจัดการ Money Management ที่ดีจะทำให้คุณไม่มีวันหมดตัวจากการเล่นหุ้นเลย
การความคุมความเสี่ยงคือการควบคุม การซื้อขายแต่ละครั้ง ภายในกรอบที่คุณกำหนด โดยมีการกำหนดจุดซื้อ ขาย ขาดทุนที่แน่นอนก่อนการตัดสินใจซื้อหุ้นแต่ละครั้ง ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 2% Rule เทคนิคการจัดการ Money Management แบบง่ายๆ
5.เริ่มลงทุน
ขอข้ามรายละเอียดเรื่องการเปิดพอร์ท โบรกเกอร์ต่างๆไปนะครับ ลองหาข้อมูลกันเองจากโบรกเกอร์น่าจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนกว่า
หลังจากที่คุณเริ่มมั่นใจในความรู้ที่ได้ศึกษามา และพอเข้าใจเรื่องความเสี่ยงมากพอแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มลงทุนจริงๆกันเสียทีขอให้มองข้ามการเล่น Demo , เกมส์ , โปรแกรมจำลอง หรืออะไรก็แล้วแต่ไปเลยครับ เพราะ ตลาดจริงกับในเกมส์มันช่างต่างกันเหลือเกินทำไมนะหรือลองอ่านกันดูครับ 5 เหตุผลที่ Traderมือใหม่ไม่ควรหัด Demo ก่อน แต่ให้เริ่มจากเงินลงทุนจำนวนน้อยๆก่อน เมื่อมั่นใจ เริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นแล้วค่อยๆเพิ่มทุนเข้าไปดีกว่า
6.จดบันทึก
ขั้นตอนที่ 6 ขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้ามก็คือการ จดบันทึกการลงทุน อย่างสม่ำเสมอ ย้ำอีกครั้งว่า อย่างสม่ำเสมอ และถ้าเป็นไปได้ก็ให้จดทุกอย่างที่ทำ ทุกอย่างที่คิด ซื้อตัวไหนราคาเท่าไร ทำไมถึงซื้อ ทำไมถึงขาย โดยเฉพาะทุกครั้งที่คุณพลาด ที่ขาดทุน อย่าหลอกตัวเองแล้วจดทุดอย่างที่เกิดขึ้น ทุกอย่างที่คุณจดไว้ มันจะกลายเป็นลายแทงสมบัติชั้นยอดในการที่จะประสบความสำเร็จได้ในอนาคต และเป็นตำราชั้นเยี่ยมในการพัฒนาตัวเองอีกด้วย
7.วิเคราะห์
เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องมาจากการจดบันทึกในข้อที่ 6 เมื่อคุณจดบันทึกทุกอย่างไว้ครบถ้วนดีแล้ว คุณจะสามารถมองเห็นได้ทันทีเลยว่าคุณควรจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ควรจะพัฒนาอะไรบ้าง อะไรคือสิ่งที่คุณขาดไป แล้วลงมือทำมันซะ !!
ขั้นตอนสุดท้าย 8.กลับไปเริ่มต้นขั้นตอนที่1 ใหม่ วนไปครับ