World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดบวกในวันนี้ (19 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

การประชุมกำหนดนโยบายการเงินซึ่งใช้เวลาสองวันของ BOJ จะสิ้นสุดลงในวันนี้ โดยผลสำรวจบ่งชี้ว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5%

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาจะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนในวันนี้ (19 ก.ย.) โดยจะมีการหารือในหลากหลายประเด็น รวมทั้งประเด็นติ๊กต๊อก (TikTok) และการขยายเส้นตายการพักรบทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างผู้นำทั้งสองจะมีขึ้นในวันนี้ เวลา 09.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.00 น.ตามเวลาไทย โดยจะเป็นการหารือของปธน.ทรัมป์และปธน.สีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.

- ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในระยะ 6 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีความไม่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 42.4% ลดลงจากระดับ 49.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 31.0%

-- รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) โดยขอให้ศาลเพิกถอนคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ที่ขัดขวางไม่ให้ปธน.ทรัมป์ปลด ลิซา คุก สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง

การยื่นคำร้องดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่คุกเข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในวันพุธ (17 ก.ย.) ซึ่งที่ประชุมมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

-- เควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวแสดงความพอใจต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันพุธ

แฮสเซ็ตต์กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ สตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดโดยได้รับการสนับสนุนจากปธน.ทรัมป์นั้น ได้พยายามผลักดันให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ โดยมิแรนลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ลงมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%

-- เดวิด เทปเปอร์ มหาเศรษฐีพันล้าน เจ้าของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง แต่หากปรับลดมากเกินไปก็เสี่ยงที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาด

"ถ้าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป มันจะเข้าสู่เขตอันตราย โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ" เทปเปอร์กล่าวในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.)

-- นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ สอดคล้องกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2569 แม้ว่า Dot Plot ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง

-- ราคาหุ้นอินเทล คอร์ป บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 30% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ หลังมีข่าวว่าบริษัท Nvidia จะทุ่มเงินลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ในอินเทล

ทั้งนี้ Nvidia เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ในอินเทล ภายใต้ข้อตกลงในการร่วมกันพัฒนาชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดย Nvidia จะเข้าซื้อหุ้นอินเทลในราคา 23.28 ดอลลาร์/หุ้น

-- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

กรรมการ MPC จำนวน 7 รายมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ ขณะที่ 2 รายมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%

-- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ทางตะวันออกของคาบสมุทรคัมชัตกาในเขตตะวันออกไกลของรัสเซียในวันนี้ (19 ก.ย.) ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ขณะที่องค์การอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก

องค์การอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.58 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งอาจทำให้ระดับผิวน้ำตามแนวชายฝั่งของญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอื่น ๆ

-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (19 ก.ย.) อังกฤษเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Gfk และยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และเยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.