CPF จัดเซอร์ไพร์ส 2 เด้ง ประกาศเพิ่มทุน 1.55 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 5:1 หุ้นละ 25 บ. หวังระดมทุน 3.87 หมื่นลบ. ใช้คืนเงินกู้ . -ขยายการลงทุน ฟากโบรกฯ เชื่อเพิ่มทุนรอบนี้เพื่อกด D/E ลง หวังใช้เบิกทางกู้เงินขยายธุรกิจ คาดระยะสั้นกดราคาไดลูทลง 20% เหลือ 27 บาท พร้อมอวดกำไร Q1/60 เฉียด 4 พันลบ. สูงกว่าที่โบรกฯ คาดที่ระดับ 2.1-3 พันลบ. ส่วนปัจจัยพื้นฐานคาดช่วง Q3/60 ผลงานเริ่มเด่น รับธุรกิจกุ้ง - ไก่ฟื้น และแผนซื้อกิจการหนุน
*** ประกาศเพิ่มทุน 1.55 พันล้านหุ้น จัดสรรผถห.เดิม 5:1 ราคา 25 บ./หุ้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท CPF อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 7,742,941,932 บาท เป็น 9,291,530,318 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 1,548,588,386 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 1,548,588,386 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)อัตราส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขายหุ้นละ 25 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น วันที่ 24-27 และ 31 ก.ค.60
โดยบริษัทจะนำที่ได้จากการเพิ่มทุนทั้งหมดไปใช้เพื่อการชำระคืนเงินกู้ยืมและ/หรือหุ้นกู้ จำนวนประมาณ 27,000 ล้านบาท ภายในปี 61 และสำรองเพื่อขยายการลงทุนในอนาคต จำนวน 11,715 ล้านบาท
*** โชว์กำไร 3.95 พันลบ. ดีกว่าโบรกฯคาดทุกสำนัก
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1/60 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 มีกำไรสุทธิ 3,955.31 ล้านบาท หรือ 0.53 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน ที่กำไรสุทธิ 3,764.29 ล้านบาท หรือ 0.51 บาท/หุ้น หลังจากมียอดขาย 119,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 13% โดยมีสัดส่วนรายได้จากกิจการต่างประเทศและส่งออกคิดเป็น 70% และกิจการจาการขายภายในประเทศไทยมีสัดส่วน 30%
นายอดิเรก ประเมินธุรกิจในปีนี้กิจการของบริษัทส่วนใหญ่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยธุรกิจสัตว์น้ำมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง การส่งออกสินค้าเนื้อไก่จากประเทศไทยเพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจสุกรมีผลกระทบจากภาวะราคาทั้งภูมิภาคเอเซียได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจากปีก่อนจากภาวะผลผลิตล้นตลาด จนมีผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในประเทศเวียดนาม ประเทศกัมพูชาและประเทศไทย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนกิจการในต่างประเทศส่วนใหญ่มีอัตราการเติบโตที่ดี เช่น ประเทศจีน ประเทศรัสเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศตุรกี
ทั้งนี้หลังจากประกาศผลประกอบการและเพิ่มทุน ราคาหุ้น CPF ปิดการซื้อขายที่ระดับ 24.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -1.20 % มูลค่าการซื้อขาย 3,015.26 ล้านบาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้รวบรวม บทวิเคราะห์ของ CPF ในแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ พบว่าผลประกอบการในไตรมาสนี้ ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมิน โดยบล. ดีบีเอสวิคเคอร์ คาดว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท ด้านบล.ทรีนีตี้ คาดกำไรที่ 2,109 ล้านบาท ส่วน บล.ซีไอเอ็มบี คาดว่าจะมีกำ ไรปกติ 2.4 พันล้านบาท ขณะที่ บล.บัวหลวง คาดกำไรสุทธิที่ 3 พันล้านบาท และ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง คาดกำไรอยู่ที่ 2,106 ล้านบาท
*** โบรกฯ คาดเพิ่มทุนเพื่อกด D/E - จ่อหั่นราคาเป้าหมายลงอีก 10%
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ว่าการออกหุ้นเพิ่มทุนของ CPF อาจจะเป็นการนำเงินไปใช้ชำระหนี้เพื่อให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน (D/E) ของบริษัทมีความสมดุลและมีความสามารถในการกู้เงิน เพื่อใช้ขยายธุรกิจอื่นๆในอนาคตมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากมองว่าบริษัทต้องการนำเงินไปชำระหนี้ 2.7 หมื่นล้านบาทเพื่อลดภาระดอกเบี้ย จะสามารถลดภาระดอกเบี้ยไปได้เพียงปีละ 1.2 พันล้านบาทเท่านั้นหากคิดที่อัตราดอกเบี้ย 4 - 5% เท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่ากับราคาหุ้น CPF ที่จะไดลูท(Dilute)ลงไปหลังจากการเพิ่มทุน
"มุมมองในระยะยาวต้องจับตาว่าบริษัทจะขยายธุรกิจออกไปในลักษณะใด และสร้างผลตอบแทนออกมาได้คุ้มค่าหรือไม่ " นักวิเคราะห์กล่าว
ทั้งนี้บล.บัวหลวงเตรียมปรับบทวิเคราะห์ในวันจันทร์ 15 พ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะปรับลดราคาพื้นฐานลงอีก 10% จากปัจจุบันที่ให้ราคาพื้นฐาน 41 บาท เนื่องจากการเติบโตของกำไรสุทธิไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ เนื่องจากราคาเนื้อสุกรที่ค่อนข้างตกต่ำในปีนี้ และจากประเด็นการปรับลดลงของราคาหุ้น(ไดลูท)ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการออกหุ้นเพิ่มทุน
*** บล.ฟิลลิป คาดระยะสั้นกดราคาไดลูท 20% เหลือ 27 บ.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเพิ่มทุน 1.5 พันล้านบาทเพื่อนำไปใช้ชำระหนี้ราว 2.7 หมื่นล้านบาท ของ CPF ครั้งนี้ น่าจะช่วยให้บริษัทมีภาระดอกเบี้ยที่ลดลง และจะช่วยให้บริษัทมีความสามารถในการเข้าซื้อกิจการได้รวดเร็วขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดีการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลดีภายในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากบริษัทจะได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่ไดลูทลงทันที 20% หลังจากการออกหุ้นเพิ่มทุน แต่คาดว่าจะส่งผลดีในระยะยาวหากบริษัทมีการเข้าซื้อธุรกิจที่เหมาะสมเพิ่มเติมในอนาคต
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯเชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไปจากราคาสุกรที่ดีขึ้นหลังปัญหา จำนวนเนื้อสุกรที่มีมาก(Over Supply)ในเวียดนามคลี่คลายลง ทั้งนี้ทางบล.ได้ปรับราคาพื้นฐานของ CPF ลงมาอยู่ที่ 27 บาทแล้ว เนื่องจากการได้คำนวณการไดลูทของราคาที่จะเกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มทุน
*** มองพื้นฐานเริ่มฟื้น Q3/60 ตามตลาดกุ้ง - ไก่ และดีลซื้อกิจการ
บล.เคทีบี เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมของอุปทานกุ้งในประเทศได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว ราคากุ้งในประเทศ (ขนาด 60ตัว/ก.ก.) อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วจาก 215 บาท/ก.ก. ลงมาเป็น 185 บาท/ก.ก. ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนการกลับมาของปริมาณการเลี้ยงและเป็นแนวโน้มที่ดีกับ CPF ขณะที่ราคาสุกรปัจจุบันเริ่มทรงตัวแล้ว เรามองว่าจะยังเห็นการอ่อนตัวลงของผลประกอบการต่อเนื่องใน Q2/60 เนื่องจากฐานราคาสุกรที่สูงผิดปกติในปีก่อน แต่บริษัทจะได้ผลบวกจากอุตสาหกรรมไก่ที่เติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตามธุรกิจกุ้งที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรวมบริษัทที่เข้าซื้อมา ขณะที่จะเริ่มกลับมาเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกครั้งใน Q3/60 จากเริ่มรับผลบวก order ส่งออกไก่ที่สูงขึ้น (สะท้อนผ่านทั้งด้านราคาและปริมาณขาย) ธุรกิจกุ้งที่เติบโตต่อเนื่องและผลบวกจากการซื้อกิจการซึ่งจะช่วยผลักดันให้กำไรในไตรมาสดังกล่าวสูงขึ้นเป็นจุดสูงสุดของปีได้
ทั้งนี้มองว่า CPF มีความน่าสนใจในด้านการเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการมากขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญกับการเข้าซื้อธุรกิจในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทไม่ต้องเผชิญกับแนวโน้มการออกมาตรการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน (ไปตั้งโรงงานในประเทศนั้นโดยตรง) ขณะที่การเข้าซื้อสิ่งที่มีอยู่แล้วจะทำให้ CPF ไม่ต้องเสียเวลาในการลงทุนและสร้างแบรนด์ รวมถึงเผชิญความเสี่ยงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอีกด้วย แม้ในปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีการซื้อกิจการในระดับที่มากกว่าปกติ แต่เราคาดจะยังเห็นการเติบโตผ่านการเข้าลงทุนในอนาคตอันสั้นเพิ่มเติมอีกได้