ส.อ.ท.ชี้ตลาดเหล็กฟื้น คาดดีมานด์ในไทยปีนี้โต 15% แตะ 18.9 ล้านตัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 ต.ค. 64 12:16 น.
ส.อ.ท. ชี้ตลาดเหล็กโลก-ไทย มีแนวโน้มดีขึ้น หลังโควิดคลี่คลาย คาดปีนี้ความต้องการใช้เหล็กในไทยโต 15% อยู่ที่ 18.9 ล้านตัน วอนรัฐปกป้องอุตสาหกรรม - หนุนใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้มองว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กจะเริ่มปรับดีขึ้นจากปีก่อน สะท้อนจากตัวเลขคาดการณ์ โดยสมาคมเหล็กโลก หรือ World steel Association ที่คาดว่าความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปของโลกมีแนวโน้มขยายตัว 5.8% ปริมาณอยู่ที่ 1,874 ล้านตัน นื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากที่สามารถมีการผลิตวัคซีนในการป้องกันได้ เป็นผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินการได้ดียิ่งขึ้น ภาคการผลิตของอุตสาหกรรมมีแนวโน้มและทิศทางที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น
โดยคาดว่ากลุ่มสหภาพยุโรป (27 ประเทศและสหราชอาณาจักร) ความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัวที่ 10.2% กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) คาดความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัว 3.4% และภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย คาดจะขยายตัว 4.7% และจีน ขยายตัว 3.0%
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาสินค้าเหล็กในภูมิภาคเอเซียหลายประเภทมีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือนก.ย. 64 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า เช่น สินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นราคา 980 ดอลลาร์/ตัน ปรับลดลง 0.7% เหล็กลวดราคา 831 ดอลลาร์/ตัน ปรับลดลง 2.8% จากข้อมูลดังกล่าวคาดว่าสถาณการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกน่าจะเลยจุดสูงสุดมาแล้ว และน่าจะกลับสู่สถานการณ์ปกติในไม่ช้านี้ แต่คาดว่าจะไม่ต่ำลงมากเหมือนก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากประเทศจีนมีการควบคุมการผลิต และมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
ด้านความต้องการใช้เหล็กในไทยปีนี้ คาดว่าจะมีความต้องการใช้เหล็กทั้งปีราว 18.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15% จากปี 63 โดยผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนเพิ่มขึ้น 19% และผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวเพิ่มขึ้น 10% แต่ทั้งนี้จากข้อมูลของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยจะพบว่าปริมาณนำเข้ายังคงมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าการผลิตในประเทศ โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็ก 13.0 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน
ดังนั้นจากสถานการณ์ที่ความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาด โควิด -19 ในปี 63 และกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ การการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายใน และการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า และหันมาใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศจะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เร็วขึ้นได้
รายงาน ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
เรียบเรียง สุรเมธี มณีสุโข
อีเมล์. [email protected]
อนุมัติ อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
____________________________________________________________________________________
แบบสรุปผลการดำเนินงาน (F45)
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 6 เดือน
สอบทาน. สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน
ปี 2564 2563 2564 2563
กำไร (ขาดทุน). 922,011 133,073 1,769,170 187,540
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ *
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.11 0.02 0.21 0.02
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไข
หมายเหตุ
*สำหรับงบการเงินรวม
โปรดดูงบการเงินฉบับเต็มประกอบ ก่อนการตัดสินใจลงทุน
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ ___________________________
( นายราจีฟ มังกัล )
กรรมการผู้จัดการใหญ่
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
______________________________________________________________________