จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 คลี่คลาย ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการ 3 ด้าน ได้แก่
1. จัดทำแนวทางการรักษาพยาบาลเป็นสถานที่กักกันในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ารับการรักษาในประเทศไทย (ซึ่งรวมผู้ติดตาม) โดยแบ่งเป็น สถานกักกันในโรงพยาบาล (Hospital Quarantine) ไว้สำหรับกักกันตัวผู้ป่วยชาวไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในไทย และสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติและผู้ติดตามซึ่งต้องมีการนัดหมายไว้ล่วงหน้า
2. ให้ประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของโลกด้านการดูแลสุขภาพ โดยจัดทำตราสัญลักษณ์ Medical Hub ภายใต้แนวคิด Healthcare Capital of the World เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาพยาบาลของประเทศ
3. พัฒนาชุดเครื่องมือแพทย์เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยจะมุ่งเน้นให้มีการผลิตในประเทศ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องมือแพทย์สำหรับการคัดกรองและตรวจสอบโรค เครื่องมือแพทย์สำหรับการป้องกันและควบคุมโรค เครื่องมือแพทย์สำหรับการคัดแยกและการฆ่าเชื้อ และเครื่องมือแพทย์สำหรับการบำบัดรักษาโรค
เพราะไทยเรามีการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ดีมาก ทำให้ชาวต่างชาติเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขมากขึ้น รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายที่สามารถดึงดูดให้ชาวต่างชาติตัดสินใจเลือกรับการรักษาในประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับธุรกิจโรงแรมที่ได้ผลกระทบจาก โควิด-19 เต็มๆ ก็เริ่มมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ โดยการออกแพ็กเกจจูงใจทั้งลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติ ให้เข้ามาพักที่โรงแรม โดยได้รับการดูแลจากโรงพยาบาล ระหว่างการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (State Quarantine) เป็นเวลา 15 วัน หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ซึ่งก็สอดคล้องกับไอเดีย "ทัวร์หนีตาย" ของเจ้าสัวซีพี ที่เคยพูดไว้ในช่วงแรกๆ ที่เกิดวิกฤติ การท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ และควรเริ่มโปรโมตตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อเรามีระบบสาธารณสุขที่ดี มีบุคลากรการแพทย์ที่ดีเยี่ยมในการรับมือโควิด-19 เพราะจริงๆ ถ้าดูจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาบ้านเรา ประเทศไทยน่าจะมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด รัฐบาลจึงควรจะนำเสนอโฆษณาจุดแข็งของไทยไปตามสื่อทั่วโลก เพราะเวลานี้เศรษฐีในจีนอยู่บ้านมานานอยากท่องเที่ยว เศรษฐีในสหรัฐฯ ยุโรป ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดสูงมากอยากออกนอกประเทศ การให้เข้ามาต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ เชื่อว่าเศรษฐีเหล่านี้อยากมาบ้านเรา เพราะมีความสะดวกสบาย และเขาพร้อมจะอยู่ยาว ใช้เงินจำนวนมาก เพราะประเทศเราปลอดภัยมากกว่า มีการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า
หากทำได้ก่อนก็จะยิ่งฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว มองว่าการฟื้นภาคการท่องเที่ยวน่าจะทำได้เร็วสุด หากดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระดับเศรษฐี 5 ล้านคน มาใช้บริการทางการแพทย์ในไทย ทั้งการตรวจร่างกาย เช็กร่างกาย การเสริมความงาม การผ่าตัด ซึ่งเป็นการเปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ที่มีการใช้จ่ายสูง เฉลี่ย 2 แสนบาทต่อคน จะสร้างรายได้ 1 ล้านล้านบาทต่อปี
ขอเอาใจช่วยให้ไทยเราจะผลักดันนโยบาย Medical Hub ให้เหนือกว่าประเทศคู่แข่งอย่างสิงคโปร์และมาเลเซียได้ เพื่อเศรษฐกิจไทยจะได้กลับมาสดใสอีกครั้ง