SET ผันผวน ชู 4 หุ้น

SET ผันผวนต่อ การเมืองทำนลท.ชะลอลงทุน ชู 4 หุ้น Defensive รับมือดัชนีผันผวน

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,495 - 1,520 จุด เนื่องจากนักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนการเมืองภายในประเทศประเด็นสภาฯโหวตเลือกนายกฯ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับฟันด์โฟลว์ต่างชาติพลิกเป็น Net sell อีกครั้งจะกดดันต่อแนวโน้มการลงทุนในระยะสั้น จึงแนะนำ Selective buy ต่อไป


สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 เติบโต  BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI CBG, หุ้นรับอานิสงส์หุ้นกลุ่มเทคฯดีดตัวขึ้น KCE HANA BE8 BBIK และหุ้นกลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวนBDMS BEM INTUCH ADVANC


ด้านหุ้นแนะนำวันนี้ WHA (ปิด 3.74 ซื้อ/เป้า 5 บาท) มีแนวโน้มสูงที่บริษัทจะปรับประมาณการณ์ยอดขายที่ดินในปีนี้ขึ้นจากเดิม 1,750 ไร่ หลังจากที่ดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มทุนรถไฟฟ้าจากจีน 


SC (ปิด 4.48 ซื้อ/ เป้า IAA Consensus 5 บาท) ผลกำไรจะดีขึ้นทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 จากยอด backlog ในมือ และเร่งเปิดโครงการใหม่เน้นแนวราบระดับราคา 20 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทต่อยูนิต


ทั้งนี้ประเด็นสำคัญวันนี้ ก้าวไกล-เพื่อไทย ทำข้อตกลงเลือก คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ เราให้น้ำหนักเป็นบวกเพราะการเสนอชื่อคนกลางถือเป็นทางออกเพื่อลดความขัดแย้งของทั้ง 2 พรรค โดยวันนี้จะมีการเปิดประชุมสภาฯ และโหวตเลือกประธานสภาฯ ทำให้กระบวนการทางการเมืองเดินหน้าและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเป็นจิตวิทยาบวกต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย


รวมไปถึง ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ จีน, ยุโรป และสหรัฐยังชะลอตัว ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน มิ.ย.(Caixin) ลดลงสู่ระดับ 50.5 จาก 50.9, ยุโรปลดลงแตะระดับ 43.4 จาก 44.8 และ สหรัฐ (ISM) ลดลง 46 จาก 46.9 และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 47 ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนภาคการผลิตที่หดตัวเป็นสัญญาณลบต่อทิศทาง ศก. โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป 


สุดท้ายพรุ่งนี้จับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของบ้านเรามีโอกาสลดลงอีก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงจนถึงขั้นติดลบ จากผลของฐานสูงในปีที่ผ่านมา และการชะลอตัวของราคาพลังงาน การลดลงของเงินเฟ้อจะทำให้แบงก์ชาติไม่ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยนี้จะหนุนให้กระแสเก็งกำไรหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์กลับมาอีกครั้งจากความหวังดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุด