ไม่มีฟองสบู่ครั้งไหน..เกิดตอนดอกเบี้ยขาลง

ทำไม “ดอกเบี้ย” คือเส้นแบ่งชะตากรรมฟองสบู่..
มีประโยคเดียวที่อธิบายวัฏจักรตลาดได้ดีที่สุด
“ไม่เคยมีฟองสบู่ไหนแตกในช่วงที่เฟดกำลังลดดอกเบี้ย”
นี่ไม่ใช่ความเห็น แต่เป็นข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์จากทุกวัฏจักรใหญ่ในรอบ 50 ปี
และเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้ แม้ตลาดผันผวนแรง แต่ยังไม่ใช่จุดที่ควรกลัวที่สุด
..
1) ฟองสบู่เกิดขึ้นเสมอในขาขึ้น แต่จะไม่แตกถ้าสภาพคล่องยังไม่ถูกปิดกั้น
ทุกสินทรัพย์ที่พุ่งแรง จะมี “ชั้นฟองสบู่” เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็น
ดอทคอม 2000
อสังหาฯ 2008
น้ำมันยุค 70
AI Supercycle ในวันนี้
ฟองสบู่ = ราคาวิ่งเร็วกว่ากำไร แต่ “รอได้” ให้ Earnings ค่อย ๆ ไล่ตาม
ถ้าดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น สภาพคล่องยังไม่ถูกดูดออก ราคาก็ยังขยายตัวต่อได้
..
2) ฟองสบู่จะเริ่มเปราะทันทีที่ “เฟดหยุดลด แล้วกลับมาขึ้นดอกเบี้ย”
ประวัติศาสตร์วนซ้ำแบบแทบจะเหมือน copy/paste
ดอทคอมปี 2000
เฟดขึ้นดอกเบี้ย → บริษัทขาดทุนสภาพคล่อง → คนหยุดอัดเงิน → แตก
วิกฤติซับไพรม์ 2007–2008
เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป → สินเชื่อหาย → บ้านขายไม่ออก → พังทั้งระบบ
สูตรเดิมทุกครั้ง:
ดอกเบี้ยขึ้น → เงินหาย → ความเสี่ยงพุ่ง → ฟองสบู่แตก
..
3) ภาพวันนี้ “ไม่เหมือน” ก่อนแตกของดอทคอมเลย
ตลาดผันผวนจริง แต่ฐานโครงสร้างของ AI/Tech วันนี้แข็งแรงเกินกว่าจะล้มทันที
เฟดยังไม่ใช่โหมดขึ้นดอกเบี้ย
สภาพคล่องยังไม่ถูกบีบ
รายได้ของ Cloud + AI โตต่อเนื่องทุกไตรมาส
CapEx ของ Hyperscaler ล็อกยาวถึงปี 2026
หนี้บริษัทเทคต่ำกว่ากำไรแบบมาก (Debt/EBITDA ต่ำสุดในรอบทศวรรษ)
ที่สำคัญที่สุด:
ฟองสบู่รอบนี้มีกำไรจริงรองรับ แตกต่างจากปี 2000 อย่างสิ้นเชิง
GPU ถูกจองยาว, โมเดลกำลังสร้างรายได้, Cloud โตจาก real demand ไม่ใช่ความหวังล้วน
เรียกว่าฟองสบู่ได้ แต่เป็นฟองสบู่ “คุณภาพสูง”
..
4) จุดอันตรายจริง: ปลายปี 2026 – ต้นปี 2027
นี่คือช่วงที่วัฏจักรอาจเริ่มอิ่มตัว
และเป็นครั้งแรกที่เราต้องจับสัญญาณแบบใกล้ชิดมากขึ้น
สัญญาณความเสี่ยงที่จะทำให้ฟองสบู่โดนบีบ…
CapEx ชะลอตัว
รายได้โตไม่ทันต้นทุน
Debt/EBITDA เร่งขึ้นเร็ว
บริษัทยักษ์เริ่มใช้หนี้เพื่อรักษาการเติบโต
ถ้าสัญญาณพวกนี้มาชนกันในช่วง 2026–2027
แล้วเฟดพลิกกลับมา “ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง”
นั่นคือจุดที่ความเสี่ยงจะเปลี่ยนจากฟองสบู่ “ขยายตัว” → “แตกรัว ๆ”
..
สรุป: วันนี้ยังไม่ใช่วันที่ฟองสบู่จะแตก
แต่เป็นวันที่ตลาดกำลัง “เขย่า” เพื่อจัดตำแหน่งใหม่
ตลาดสวิงแรงแค่ไหน ก็ยังเป็นเพียงการปรับฐานสั้น ๆ
เพราะเงื่อนไขที่ทำให้ฟองสบู่แตก “ยังไม่มา”
ตราบใดที่
• ดอกเบี้ยไม่ขึ้น
• สภาพคล่องยังไม่ถูกตัด
• Big Tech ยังสร้างกำไรที่ไล่ตามราคาได้
AI Supercycle ยังเดินต่อครับ
ผันผวนได้ แต่ยังไม่ใช่ฉากสุดท้าย
..
ที่มา.. หุ้นพอร์ทระเบิด