ห้องเม่าปีกเหล็ก

ไม่มีฟองสบู่ครั้งไหน..เกิดตอนดอกเบี้ยขาลง

โดย OVERMoney
เผยแพร่ :
58 views

ไม่มีฟองสบู่ครั้งไหน..เกิดตอนดอกเบี้ยขาลง

 

ทำไม “ดอกเบี้ย” คือเส้นแบ่งชะตากรรมฟองสบู่..

มีประโยคเดียวที่อธิบายวัฏจักรตลาดได้ดีที่สุด

“ไม่เคยมีฟองสบู่ไหนแตกในช่วงที่เฟดกำลังลดดอกเบี้ย”

นี่ไม่ใช่ความเห็น แต่เป็นข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์จากทุกวัฏจักรใหญ่ในรอบ 50 ปี

และเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้ แม้ตลาดผันผวนแรง แต่ยังไม่ใช่จุดที่ควรกลัวที่สุด

..

1) ฟองสบู่เกิดขึ้นเสมอในขาขึ้น แต่จะไม่แตกถ้าสภาพคล่องยังไม่ถูกปิดกั้น

ทุกสินทรัพย์ที่พุ่งแรง จะมี “ชั้นฟองสบู่” เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็น

ดอทคอม 2000

อสังหาฯ 2008

น้ำมันยุค 70

 

AI Supercycle ในวันนี้

ฟองสบู่ = ราคาวิ่งเร็วกว่ากำไร แต่ “รอได้” ให้ Earnings ค่อย ๆ ไล่ตาม

ถ้าดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น สภาพคล่องยังไม่ถูกดูดออก ราคาก็ยังขยายตัวต่อได้

..

2) ฟองสบู่จะเริ่มเปราะทันทีที่ “เฟดหยุดลด แล้วกลับมาขึ้นดอกเบี้ย”

ประวัติศาสตร์วนซ้ำแบบแทบจะเหมือน copy/paste

ดอทคอมปี 2000

เฟดขึ้นดอกเบี้ย → บริษัทขาดทุนสภาพคล่อง → คนหยุดอัดเงิน → แตก

วิกฤติซับไพรม์ 2007–2008

เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป → สินเชื่อหาย → บ้านขายไม่ออก → พังทั้งระบบ

สูตรเดิมทุกครั้ง:

ดอกเบี้ยขึ้น → เงินหาย → ความเสี่ยงพุ่ง → ฟองสบู่แตก

..

3) ภาพวันนี้ “ไม่เหมือน” ก่อนแตกของดอทคอมเลย

ตลาดผันผวนจริง แต่ฐานโครงสร้างของ AI/Tech วันนี้แข็งแรงเกินกว่าจะล้มทันที

 

เฟดยังไม่ใช่โหมดขึ้นดอกเบี้ย

สภาพคล่องยังไม่ถูกบีบ

รายได้ของ Cloud + AI โตต่อเนื่องทุกไตรมาส

CapEx ของ Hyperscaler ล็อกยาวถึงปี 2026

 

หนี้บริษัทเทคต่ำกว่ากำไรแบบมาก (Debt/EBITDA ต่ำสุดในรอบทศวรรษ)

ที่สำคัญที่สุด:

ฟองสบู่รอบนี้มีกำไรจริงรองรับ แตกต่างจากปี 2000 อย่างสิ้นเชิง

GPU ถูกจองยาว, โมเดลกำลังสร้างรายได้, Cloud โตจาก real demand ไม่ใช่ความหวังล้วน

เรียกว่าฟองสบู่ได้ แต่เป็นฟองสบู่ “คุณภาพสูง”

..

4) จุดอันตรายจริง: ปลายปี 2026 – ต้นปี 2027

นี่คือช่วงที่วัฏจักรอาจเริ่มอิ่มตัว

และเป็นครั้งแรกที่เราต้องจับสัญญาณแบบใกล้ชิดมากขึ้น

สัญญาณความเสี่ยงที่จะทำให้ฟองสบู่โดนบีบ…

 

CapEx ชะลอตัว

รายได้โตไม่ทันต้นทุน

Debt/EBITDA เร่งขึ้นเร็ว

 

บริษัทยักษ์เริ่มใช้หนี้เพื่อรักษาการเติบโต

ถ้าสัญญาณพวกนี้มาชนกันในช่วง 2026–2027

แล้วเฟดพลิกกลับมา “ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง”

นั่นคือจุดที่ความเสี่ยงจะเปลี่ยนจากฟองสบู่ “ขยายตัว” → “แตกรัว ๆ”

..

สรุป: วันนี้ยังไม่ใช่วันที่ฟองสบู่จะแตก

แต่เป็นวันที่ตลาดกำลัง “เขย่า” เพื่อจัดตำแหน่งใหม่

ตลาดสวิงแรงแค่ไหน ก็ยังเป็นเพียงการปรับฐานสั้น ๆ

เพราะเงื่อนไขที่ทำให้ฟองสบู่แตก “ยังไม่มา”

ตราบใดที่

• ดอกเบี้ยไม่ขึ้น

• สภาพคล่องยังไม่ถูกตัด

• Big Tech ยังสร้างกำไรที่ไล่ตามราคาได้

AI Supercycle ยังเดินต่อครับ

ผันผวนได้ แต่ยังไม่ใช่ฉากสุดท้าย

..

 

ที่มา.. หุ้นพอร์ทระเบิด


OVERMoney