ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 30.832 บาท ต่อ USD ในวันนี้ วันที่ 23 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ซึ่งถือว่าเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ 2556 ตามวัฏจักรค่าเงินบาท ดังนี้ คือ :
วัฏจักรค่าเงินบาท ( Baht Per USD ) :
1) วันที่ 2 กรกฎาคม ปี ค.ศ 1997 : อัตราแลกเปลี่ยน = 25.00 ( วันที่ประกาศลอยค่าเงินบาทเนื่องจากวิกฤติต้มยำกุ้ง )
2) เดือนมกราคม ปี ค.ศ1998 : อัตราแลกเปลี่ยน = 55.50 ( อ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติกาล )
3) วันที่15 เมษายน ปี ค.ศ 2013 : อัตราแลกเปลี่ยน = 28.584 ( แข็งค่าที่สุด )
4) วันที่ 28 กันยายน ปี ค.ศ 2015 : อัตราแลกเปลี่ยน = 36.395
5) วันที่ 14 มีนาคม ปี ค.ศ 2018 : อัตราแลกเปลี่ยน = 31.122
6) วันที่ 27 กรกฎาคม ปี ค.ศ 2018 : อัตราแลกเปลี่ยน = 33.410 ( อ่อนค่าที่สุดในรอบล่าสุด )
7) วันที่ 23 มิถุนายน ปี ค.ศ 2019 : อัตราแลกเปลี่ยน = 30.832 ( แข็งค่าที่สุดในรอบนี้ )
เพราะฉะนั้น ทิศทางของตลาดหุ้นจะถูกกําหนดโดยปัจจัยดังนี้ คือ :
1) ระยะสั้น :
1.1) ค่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนตัวจาก 30.832 บาท ต่อ USD ในวันนี้ วันที่ 23 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ไปยังจุดที่แข็งค่าที่สุดครั้งก่อนที่ 28.584 เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี พ.ศ 2556 ซึ่งหมายความว่า " ยิ่งค่าเงินบาทแข็งค่ามากเท่าไหร่ ก็แสดงว่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามายังประเทศไทย และตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และจะไปผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น "
2) ระยะกลาง :
2.1) " ยอดซื้อขาย/สุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วงทุกสิ้นวันทําการซื้อขาย "
3) ระยะยาว :
3.3) เฟด ( จับตาการประชุม FOMC ครั้งต่อไปในวันที่ 30 - 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 เพราะถ้ามีการลดดอกเบี้ย Fed Fund Rate ก็จะเป็นผลดี ต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย )
3.2) การเจรจาการค้า ( จับตาการประชุม G-20 ที่กรุงโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 28 - 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ว่า สรุปแล้วประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีการปรับขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนไปยังสหรัฐอเมริกาอีกที่เหลือจํานวน 325,000 ล้าน USD จาก 0% เป็น 25% หรือไม่? โดยถ้าเจรจากันได้โดยไม่ต้องปรับ ก็จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก )
3.3) ราคานํ้ามัน ( จับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน )
3.4) จับตาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ " อย่างเร็วที่สุดประมาณกลางเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 และอย่างช้าที่สุดประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2562 "
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.bloomberg.com )
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/