ห้องเม่าปีกเหล็ก

5 หุ้น Earning Play ส่อฟันกำไรโต

โดย GREEN WAY
เผยแพร่ :
90 views

ล็อกมง! 5 หุ้น Earning Play

ส่อฟันกำไรโตต่อถึงไตรมาส 2/68

.

ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ และจีนเจรจาการค้าอย่างราบรื่น ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี สำหรับปัจจัยในประเทศช่วงนี้ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยมีสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นต่อดัชนีมากนัก ดังนั้น ในแง่ของการลงทุน จึงยังต้องเป็นในลักษณะของการเลือกซื้อหุ้นในกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลการดำเนินงานที่ยังคงเติบโตได้ท่ามกลางความผันผวน

.

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุ มอง SET มีโอกาสปรับขึ้นขานรับสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงปรับลดภาษีศุลกากร แต่ Upside ยังจํากัด หลังดัชนีปรับขึ้นสะท้อนภาพบวกไประดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งในประเทศยังไร้ปัจจัยหนุน และอยู่ระหว่างติดตามประกาศงบไตรมาส 1/68 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ “Selective Buy”

.

โดยหนึ่งในคำแนะนำดังกล่าว คือหุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกําไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 1-2 ปี 2568 คาดกําไรปกติจะเติบโตได้ทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เลือก ADVANC, TRUE, BTG, CPF, CPALL

.

 

เริ่มด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ที่ได้รับคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 319.00 บาท จากบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เนื่องจาก 1. แนวโน้มการเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่ง (+27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2/68 และ +21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 68) และ 2. อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจที่ระดับ 4-5% ในปี 68-69 สำหรับปัจจัยบวกที่อาจเป็นบวกกับราคาหุ้นได้แก่ผลประกอบการไตรมาส 2/68 ที่แข็งแกร่งและการแข่งขันในการประมูลคลื่น 2100MHz ในวันที่ 29 มิ.ย.68 ที่คาดว่าจะไม่รุนแรง

.

เช่นเดียวกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ได้รับคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 14.10 บาท จากบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เนื่องจากแนวโน้มกำไรหลักที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปี 2568 (+106% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, +3% เทียบกับไตรมาสก่อน) และปีงบประมาณ 2568 (+97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 TRUE รายงานกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ และกำไรหลัก 4.3 พันล้านบาท ดีกว่าที่คาดไว้ 25-30% ทั้งนี้ หลังจากไตรมาส 1 ปี 2568 ที่แข็งแกร่ง บล.ปรับเพิ่มกำไรหลักปีงบประมาณ 2568-2560 ขึ้น 8-17% เนื่องจากปรับลดค่าใช้จ่าย SG&A, D&A และภาษี

.

ด้าน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG ได้รับคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 27.80 บาท จากบล.บัวหลวง ทั้งนี้ เพื่อรับประโยชน์จากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่ง ราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้นและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น โดยกำไรหลักไตรมาส 1/68 ที่ 1.82 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 126 ล้านบาท ในไตรมาส 1/67 ขณะที่คาดว่ากำไรไตรมาส 2/68 จะเพิ่มขึ้นYoY และ QoQ เนื่องจากราคาหมูและไก่ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

.

ขณะที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้รับคำแนะนำ “OUTPERFORM” ด้วยราคาเป้าหมาย 32.00 บาท จากบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ โดยกําไรปกติไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 8.5 พันลบ. เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากกําไรปกติ 532 ลบ. ใน 1/67 และ +44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ และตลาดคาดการณ์ไว้ 25-30% จากอัตรากําไรขั้นต้นที่กว้างกว่าคาด

.

ทั้งนี้เพื่อสะท้อนอัตรากําไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น จากราคาสุกรในประเทศไทยและประเทศเวียดนามที่สูงขึ้นท่ามกลางต้นทุน อาหารสัตว์ที่ลดลงจากต้นปีถึงปัจจุบัน ประกอบกับกําไรส่วนเพิ่มจากการเข้าซื้อหุ้น 23.8% ใน CPP ในเดือนเม.ย. จึงปรับประมาณการกําไรปกติปี 2568 เพิ่มขึ้น 22% และปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้กําไรไตรมาส 2/68 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนอย่างต่อเนื่อง

.

ปิดท้ายด้วย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้รับคำแนะนำ “OUTPERFORM” ด้วยราคาเป้าหมาย 68.00 บาท จากบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ทั้งนี้ ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากกําไรไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาด โดยกําไรปกติไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 7.6 พันลบ. +26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมาร์จิ้นธุรกิจ CVS ดีกว่าคาด และประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจํานวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 ซึ่งจะช่วยจํากัด downside ของราคาหุ้น

.

อีกทั้งกําไรไตรมาส 2/68 คาดจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (กลุ่ม 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) และซื้อขาย PER 68F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า)

 

 

ที่มา..  Wealthy Thai


GREEN WAY