โบรกชี้ ‘ตลาดหุ้นก่อนสงกรานต์’ ซึม มองแนวรับ 1,660จุด
บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยระยะสั้นก่อนสงกรานต์ ทิศทางทยอยตัวลง ประเมินแนวรับ1,660 จุด กังวลเฟดทำคิวที - ขึ้นดอกเบี้บมากกว่าคาด บล.บัวหลวง ชี้ ดัชนีร่วงเป็นจังหวะเก็บหุ้นธีมได้ประโยชน์เงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยพุ่ง ด้านบล.หยวนต้า คาดฟันด์โฟลว์ชะลอไหลเข้า
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ( 7 เม.ย.) ปรับตัวลดลง โดยระหว่างวันลดลงมากสุด 26.37 จุด อยู่ที่ 1,674.81 จุด ก่อนจะรีบาวด์กลับมาปิดตลาดที่ 1,682.41 จุด ลดลง 18.77 จุด หรือ 1.1% มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 97,091.59 ล้านบาท จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ลดขนาดงบดุล
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลง เพราะ กลับมากังวลเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงและทำคิวทีมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้สภาพคล่องหายไปมาก ส่งผลให้พี/อี ของตลาดหุ้นไทยปีนี้ มีโอกาสปรับตัวลงจาก 17 เท่า มาอยู่ที่ 15 เท่า
ทั้งนี้คาดว่าในช่วงระยะสั้นก่อนส่งกรานต์ ดัชนีหุ้นไทยจะค่อยๆปรับตัวลดลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,660 จุด และแนวต้านที่ 1,690 จุด โดยนักลงทุนควรเลี่ยงลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และทยอยสะสมหุ้นปลอดภัย (Defensive ) ใน 2 กลุ่มหลัก คือ หุ้นเฮลธ์แคร์ และหุ้นโรงไฟฟ้า เช่น GULF, BGRIM , BH ที่ปรับตัวได้ดี ในช่วงเฟดขึ้นดอกเบี้ย
“หลังจากนี้ฟันด์โฟลว์จะเริ่มชะลอการไหลเข้าหุ้นไทย และคาดว่าปีนี้ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยจะไม่หวือหวาเท่าปีก่อนแนะนักลงทุนเน้นสะสมหุ้นดีเฟนซีฟ และหุ้นจ่ายปันผล รวมถึงลดการเก็งกำไร”
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนระยะสั้น ดัชนีหุ้นจะปรับตัวลดลง จากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย และการทำคิวที ทำให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลง 3-4 % ในช่วง 1-2 เดือนนี้ ถือว่าเป็นปกติ
โดยคาดดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับแรก ที่ 1,680 จุด หากยืนไม่อยู่จะปรับตัวลง 30 จุด หรือแนวรับถัดไปที่ 1,650-1,630 จุด โดยยังประเมินแนวต้านรอบนี้ที่ 1,720-1,730 จุด และยังมองทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติปีนี้ ยังเป็นเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียและไทยมากกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว จากตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าและดอกเบี้ยขึ้นช้ากว่า
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า กล่าวว่า แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติ อาจมีชะลอการไหลเข้าหรืออาจเห็นสลับมาขายออก หลังจากซื้อสุทธินับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามากถึง 1.1 แสนล้านบาท คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะรอประเมินผลกระทบจากการปรับลดขนาดงบดุลของเฟด แล้วจึงไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้