หลายๆคนอาจมองว่าตลาดหุ้นคือสถานที่ ที่หาเงินได้ง่าย จะซื้อจะขายที่ไหนก็ได้ ขอเพียงให้มีสัญญานอินเตอร์เน็ต ภาพในหัวก็อาจจะเป็นการนั่งซิวในร้านกาแฟ พร้อมกับโน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง จิบกาแฟไปเทรดหุ้นไป แป็บๆ ก็ได้เงิน หรือไม่ก็นอนอยู่บนเปลใต้ต้นมะพร้าวริมทะเล ในมือก็ถือสมาร์ทโฟนดูหุ้นไป
มันเป็นความฝันเลยนะ
และเชื่อว่าหลายคนเข้ามาตลาดหุ้นเพื่อหวัง รวย เป็นหลัก
*
ทำได้นะ ถ้าเก่งจริง มีความรู้ความสามารถจริง แต่ถ้ามันทำได้ง่ายๆจริง ทำไมคนส่วนใหญ่ยังทำไม่ได้ล่ะ
แล้ว เราจะมี จุด เริ่ม แบบไหน
นักลงทุนที่มองสถานการณ์ออก รู้ว่าหุ้นตัวไหนน่าลงทุน ควรลงทุนตอนไหน ควรลงทุนร่วมกับใคร ควรลงทุนเท่าไหร่ ถึงจะได้กำไรคืนกลับที่คุ้มค่า คือ นักลงทุนที่ดี
กลยุทธ์สำหรับนักเก็งกำไร ขึ้นขาย ลงซื้อ
ฟังดูง่ายดีนะ
**
ผมว่า เราต้องเปลี่ยนความคิดก่อนนะครับ หรือปรับ ความเชื่อ ต่างๆ เกี่ยวกับหุ้น เช่น เราต้องคิดว่า หุ้น ที่เราเจอในปัจจุบันใน กระดาน ซื้อขาย ส่วนใหญ่ เราต้องคิดเสมอว่า หุ้น ขึ้น ไม่ได้ขึ้นแบบเสาไฟฟ้า หรือเสาธง ที่จะขึ้นตรง อย่างเดียว มันมี ขึ้น แล้วก็ พักตัว คำว่าพักตัว คือ มีการขายทำกำไรนั่นเอง และ ย่อลงมา แล้วถูกซื้อกลับขึ้นไป ใหม่ เพื่อไปขายต่ออีก ครั้ง หากหุ้นตัวใหญ่ๆ มันอาจจะมาจาก หลายๆกระบวนการ เช่น ข่าว งบ ปัจจัยพื้นฐาน การเมือง สังคม อะไรต่างๆ การขึ้นลงก็ จะเนิบๆ ช้าๆ ไปตาม ปัจจัยเหล่านั้น แต่ หุ้นซิ่ง เก็งกำไรระยะสั้นๆ นั้น ขึ้นลงตามใจ คนทำราคา พอใจราคาก็ขาย ไม่มี Indicator หรือเครื่องมือชี้นำตัวไหนมา วัดหรือจับทางมันได้ ให้คิดว่าเราจะ เดาใจ คนได้อย่างไรกัน
ดังนั้นหากเราเข้ามาในตลาดหุ้นแล้วมองว่า ออมในหุ้น ลงทุนในหุ้น ให้ลูกหลาน รอหุ้นสิบเด้ง รอ ปันผล หรือ Turnaround อิอิ ก็ต้องเลือกหุ้นครับ หุ้นบลูชิพ ( Blue-chip ) หุ้นบลูชิพ คือ หุ้นที่มั่นคง เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ (มีสินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักในวงกว้าง) มีมูลค่ากิจการตามราคาตลาดสูง ( Market capitalization ) สถานะการเงินมั่นคง สามารถทำกำไรได้ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา มีอัตราผลตอบแทนที่ไม่ผันผวน โดยส่วนใหญ่จะมีค่าใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ใน ในประเทศไทยมีอยู่ก็ไม่กี่ตัวครับ ลองไปค้นหาดู ที่เหลือก็ว่ากันไป แต่บางครั้งชิพก็ยังหายกันเลยครับ
***
การเก็งกำไรคือ การ ลงทุนทำธุรกิจ การทำธุรกิจ ไม่มีพี่มีน้อง ไม่มีเพื่อนไม่ มีคำว่า เสียใจ เสียจริง เจ็บจริง ไม่มีคำปลอบโยน ปลอบใจ หมดก็ไปหามาใหม่ ไม่มีก็เลิกไป ฟังดูแล้วโหด แต่เชื่อเถอะ
คำถามคือแล้วเราจะ เล่นให้ได้กำไรได้อย่างไรครับคำตอบคือเรียนมันทุกอย่าง เรียนให้หมด ให้เวลากับมัน ตั้งแต่ Indicator ทุกตัว หลักการทุกหลักการ ไม่ว่าจะ Elliott Wave , Fibonacci จิตวิทยา เรียนให้หมด แล้วมา สร้างระบบการเทรดของเราเองครับ
คำถามต่อมาคือ ถ้าเราเรียนเยอะขนาดนั้น จะใช้เวลา ขนาดไหน แล้ว จะไม่มั่ว กัน เหรอ แน่นอนครับ พระเอกหนังจีน ที่ ฝึกวิทยายุทธ ใหม่ๆ มักจะรีบฝึกและ ข้ามขั้น แอบไปฝึกในถ้ำ ไม่บอกอาจารย์ ผิดหลักการ ให้ฝึกตอน ขึ้น 15 ค่ำ ดันไปฝึกตอน แรม 1 ค่ำ ธาตุไปเข้าแทรก ลมปราณแตกซ่าน เลือด ออก ทั้ง 9 ทวาร ไม่บ้า ก็เพี้ยน หนักเข้า ก็ ตาย หรือ วิชากลับมาเป็น ศูนย์
****
ให้คิดเสมอว่า เรากำลังตั้งบริษัท ครับ ทำธุรกิจ กับการเล่นหุ้น ( หากเราคิดว่า เราจะเอากำไร ) บริษัทของเรานั้น จะต้อง มีความรู้ ในการ ลงทุน เหมือนกับที่เรา ฝึกทำอาหาร คือ การเรียนทำอาหาร จะช่วยให้เราได้ทราบถึงคุณสมบัติของวัตถุดิบหลากหลายชนิด ที่สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารที่แตกต่างกันได้หลายรูปแบบ นี่จึงเป็นการเปรียบเทียบที่ดี สำหรับผู้ที่จะเรียนรู้ เพราะแม้ว่าเราจะพอทราบถึงวิธีการทำอาหารดีพอสมควรแล้ว แต่การเข้าใจถึงศาสตร์ในการทำอาหารอย่างถ่องแท้ คงจะช่วยให้เราสามารถทำอาหารออกมาได้อย่างหลากหลาย และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งขึ้น
หุ้นก็เช่นกัน อิอิ เราต้องสามารถ มองด้วยตาเปล่าแล้ว มองเข้าใจถึงอารมณ์ของมันให้ได้ครับ เข้าใจ โดยไม่ต้องมีเครื่องมือมาวัด ไม่ต้องลากเส้นให้ยุ่งยาก รวมทั้งไม่ต้อง ใช้เครื่องคำนวณกันมากมาย มันก็คือประสบการณ์ ในการสั่งสมของเรานั่นแหละครับ
*****
เรากำลังเลี้ยงหุ้น ฝึกหุ้น มองหุ้น ดูอารมณ์มันให้ออก ผมนั่งดู มันทั้งวัน ในตอน เล่นใหม่ๆ ดู อย่างเดียวไม่ซื้อ ดู มันทุกตัว ดู มันทุกอย่าง และ จับการกระทำของมันว่า ถ้ารูปแบบนี้มัน จะเป็นอย่างไร และมันจะทำซ้ำๆ หลังจากนั้น ดูหุ้นทุกตัว ดูเพียงกราฟเดียวมัน ก็เหมือนกันหมด มัน ก็ทำซ้ำๆ จากคน ที่ หลอกล่อด้วย ความ โลภและความกลัว
สำคัญที่เราคิดและวิเคราะห์ ได้แล้ว ปรับมาเป็น ระบบเทรดของเราเอง
สิ่งที่ดีกว่าการเข้ามาเล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไร คือการเข้ามาลงทุนในหุ้นเพื่อสร้างความมั่งคั่ง หรือเพื่อให้หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสด เพื่อให้เกิดเป็น passive income จากเงินปันผลจนกระทั่งเป็นอิสรภาพทางการเงิน แผนการลงทุนในหุ้น ไม่ใช่แผนรวยเร็ว แต่ควรเป็นแผนรวยชัวร์ ถึงมันจะใช้เวลานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมานั่งรอ เราทำอย่างอื่นร่วมกันไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรหรือทำธุรกิจอื่นๆ แต่ถ้าไม่เริ่มทำสักที มันก็จะยิ่งนานออกไปอีก นักลงทุนในหุ้นที่เป็นมืออาชีพและประสบความสำเร็จ ไม่ได้ซื้อหุ้นแล้วกำไรทุกครั้ง แต่เมื่อมีการขาดทุนเกิดขึ้นเค้ารู้ว่าจะปกป้องตัวเองอย่างไร และถอนตัวอย่างไร และพร้อมที่จะเข้าลงทุนใหม่ได้เสมอ
คนเล่นหุ้น มันมี แบบฉบับ ของตัวเอง เมื่อใด ที่เราหาเจอเมื่อนั้น เราก็สบายใจครับ
Aotto