จับตาราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อเนื่อง 2 พ.ค.ลุ้นอิหร่านส่งออกได้ตามแผนหรือไม่
กูรูน้ำมันชี้ยุติการผ่อนผันจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านส่งผลราคาน้ำมันขึ้น 2-3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เฉลี่ย 70-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จับตา 2 พ.ค.นี้ อิหร่านส่งออกน้ำมันตามแผนหรือไม่
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงผันผวน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับเพิ่มขึ้น 2-3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยสาเหตุยังคงมาจากสถานการณ์อิหร่าน เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศยุติการผ่อนผันจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ให้ 8ชาติ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ ที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เจรจากับซาอุดิอาระเบีย เพื่อผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม ชดเชยกำลังการผลิตจากอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง ดังนั้นจึงเห็นว่าในระยะสั้นราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน ขึ้น-ลง โดยประเมินราคาน้ำมันดิบระยะสั้นสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า ราคาจะอยู่ระหว่าง 70-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ยังรอความชัดเจนว่าในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ หลังจากที่มาตรการผ่อนผันดังกล่าวสิ้นสุดลงภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 อิหร่านจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้มากน้อยเพียงใด และซาอุฯ จะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีใครทราบ ดังนั้นประเมินราคาน้ำมันดิบผันผวนในกรอบ 1-2ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
“ในระยะสั้น มองว่ายังไม่มีปัจจัยบวกหรือปัจจัยลบอื่นที่จะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับขึ้น-ลง แรง คาดว่าจะทรงตัวในระดับนี้ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะมากน้อยเพียงใดตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ ดังนั้นประเมินราคาน้ำมันหากปรับขึ้นแรง ก็ไม่เกิน75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่หากลงแรง ก็ไม่เกิน 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล”นายมนูญ กล่าว
ด้านทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก ได้แก่ สหรัฐฯ ประกาศยุติการผ่อนผันจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ให้ 8 ชาติ สิ้นสุดลงภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 กล่าวคือ สหรัฐฯ จะไม่ขยายกรอบระยะเวลาผ่อนผัน ให้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านรวมกันไม่เกิน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ระยะเวลา 6 เดือนครั้งใหม่
ขณะที่อิหร่านขู่ว่าอาจปิดช่องแคบ Hormuz ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย หากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้จริง นอกจากนี้บริษัท Shell ในไนจีเรียประกาศเหตุสุดวิสัย การส่งออกน้ำมันดิบ Bonny Light หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ท่อขนส่ง Nembe Creek 1.5 แสนบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ อาทิ รัฐบาลสหรัฐฯ ขอความร่วมมือจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ เช่น ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังสหรัฐฯ ประกาศยุติผ่อนผัน นำเข้าน้ำมันอิหร่าน ให้ตลาดมีอุปทานเพียงพอ ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียแถลงจีนและประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบอื่นๆ ยังไม่แจ้งความจำนงค์ขอซื้อน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียเพิ่มเติม หลังวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จากมาตรการคว่ำบาตร
ดังนั้น ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 71.0-75.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI อยู่ในกรอบ 63.0-67.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70.5-74.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก