หั่นเป้า "GDP - หุ้นไทย"

กูรูกระหน่ำหั่นเป้า "GDP - หุ้นไทย" เซ่นทรัมป์คลั่งป่วนโลก

ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจโลกจากนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุนตอบรับก่อนเป็นลำดับแรกๆ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงตอบรับภาษีศุลกากรต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) โดยจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการจากทุกประเทศ (Baseline Tariff) ในอัตรา 10% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เม.ย. 68 และภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการกับประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าด้วยสูง ซึ่งประเทศไทยถูกจัดเก็บภาษีในอัตรา 37% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย. 68

.

และในช่วงวันหยุดไทยที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการโจมตีจีนหนักขึ้น หลังจากจีนประกาศจะขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ในอัตรา 34% โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังระบุว่า หากจีนไม่ถอนมาตรการขึ้นภาษี 34% ภายในวันที่ 8 เม.ย. สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 50% โดยจะมีผลในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ซึ่งภาษีเพิ่มเติม 50% ดังกล่าวที่ทรัมป์ขู่ จะอยู่นอกเหนือจากภาษี 34% ที่ทรัมป์ได้ประกาศใช้กับสินค้านำเข้าจากจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากก่อนหน้านั้นทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีจีนไปแล้ว 20%

.

ซึ่งจากความกังวลนี้ส่งผลให้ศูนย์วิจัย หรือสถานบันการเงิน รวมถึงโบรกเกอร์ ต่างลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) และเป้าหมายดัชนีฯ หุ้นไทยลง "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงรวบรวมข้อมูลการคาดการณ์ตัวเลข GDP และเป้าหมาย SET ปี 68 ใหม่ไว้ดังนี้

.

อ่านข่าว : https://www.efinancethai.com/efinR.../efinReviewMain.aspx...