อยู่ที่ใครจะมองเห็นเป็นโอกาส
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเดินหน้าไปต่อ แม้ประเด็นเรื่องการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไป ก็ไม่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัว และแน่นอนตลาดหุ้นยังเป็นแหล่งทำมาหากำไรที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพิสมัย เพราะฉะนั้น แม้จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้น พลิกกลับเป็นขาลงแต่อย่างใด และพร้อมเลือกหาหุ้นดีๆลงทุนกันได้อย่างสบายใจครับ
ประเด็นข่าวที่เป็นกระแส ส่งผลกับราคาหุ้นให้มีการเคลื่อนไหวแปรเปลี่ยนไปในทิศทางใด ทางหนึ่งนั้น เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ เฝ้าติดตามกันอยู่แล้วทั้งในข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบที่ส่งผลต่อราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับข่าวนั้นๆ
วันนี้ข่าวเรื่องการเข้าจับกุมสถานบริการอาบอบนวด วิคเตอเรีย ซีเคร็ท เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 พบหญิงบริการเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ จนศาลออกหมายจับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เพราะน่าเชื่อว่านายกำพลคือผู้บริหารตัวจริง วิคตอเรีย ซีเคร็ท ทั้งนี้ นายกำพล นั้นเป็นนักลงทุนที่มีการเข้าไปถือหุ้นในหลายบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จากการสำรวจพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่นายกำพล ถือครองหุ้น 12 บริษัท คือ 1). AQUA สัดส่วน 12.88% 2). EPCO สัดส่วน 4.94% 3). SR 4.13% 4). BWG สัดส่วน 3.71% 5). MK สัดส่วน 2.52% 6). EE สัดส่วน 2.16% 7). SIRI สัดส่วน 1.31% 8). CK สัดส่วน 1.06% 9). GJS สัดส่วน 0.94% 10). CKP สัดส่วน 0.91% 11). TH สัดส่วน 0.97% และ 12). TRUE สัดส่วน 0.09%
จากข่าวที่เกิดขึ้น นำมาซึ่งผลกระทบต่อราคาหุ้น ที่มีนายกำพลถือครองหุ้นอยู่ โดยเฉพาะในหุ้นที่มีสัดส่วนการเข้าไปลงทุนที่สูงเป็นผู้ถือหุ้นในลำดับต้นๆ ของบริษัทดังกล่าวข้างต้น ทำให้นักลงทุนที่มีหุ้นในกลุ่มข้างต้นต่างพากันเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก กดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรง ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้ว ทางผู้บริหารของบริษัทฯเหล่านั้นได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า นายกำพล เป็นเพียงนักลงทุนคนหนึ่งเท่านั้น ที่เข้ามาถือหุ้นเช่นเดียวกันกับนักลงทุนโดยทั่วไป และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีตำแหน่งหน้าที่ในการบริหารบริษัทเหล่านี้แต่อย่างใด ในที่สุดหากนายกำพล ผิดจริงตามข้อกล่าวหา ก็เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่จะดำเนินการต่อไปไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด
ในกรณีนี้ คงขอกล่าวถึง BWG ซึ่งเป็นหนึ่งใน บริษัทที่นายกำพล เข้าไปถือหุ้นอยู่ และเป็นหนึ่งในหุ้นที่เฝ้าติดตามมาโดยตลอด และประเด็นข่าวนี้ก็ส่งผลต่อราคาหุ้น BWG มีการปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามโดยข้อเท็จจริงที่ทราบกันแล้วว่า นายกำพลเป็นเพียงนักลงทุนทั่วไปคนหนึ่งที่เข้าไปลงทุนใน BWG แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารบริษัทด้วยแต่อย่างใด ในกรณีนี้จึงไม่น่าจะส่งผลให้พื้นฐานและราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญนะครับ
อย่างไรก็ตาม BWG ยังนับได้ว่าเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ซ่อนมูลค่า ราคาหุ้นบนกระดานยังไม่ได้สะท้อนสตอรี่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะที่จะมาสร้างเสริมรายได้เพิ่มให้กับ BWG ได้อย่างมีนัยสำคัญเลย หากพิจารณากันถึงราคาหุ้นในปัจจุบัน ก็คงจะสร้างความอึดอัดใจให้กับนักลงทุนที่เฝ้าติดตามหุ้นตัวนี้อยู่ไม่น้อย เนื่องจากปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงเวลานี้ และยังมาเจอข่าวเสี่ยกำพล เข้าไปอีก ราคาหุ้นมีแต่สาละวันเตี้ยลง ซึ่งก็สวนทางกับความคาดหวังของนักลงทุนก่อนหน้านี้ในเรื่องราวดีๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เข้าทำนองที่ว่าหุ้นดี แต่ราคาแย่ ก็ไม่ผิดนัก
สุดท้ายแล้วความน่าสนใจของ BWG นั้นยังน่าติดตามอีกหรือไม่ คงต้องมองไปที่เรื่องของผลการดำเนินงานในอนาคต ครับว่าจะสามารถแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการการเติบโตของธุรกิจ จากเรื่องราวที่นักลงทุนคาดหวังเอาไว้ได้หรือไม่ ด้วยพื้นฐานที่ดี หากผลประกอบการออกมาดี หนุนด้วยสตอรี่ที่จะมีเข้ามา โอกาสที่ราคาหุ้นพลิกกลับมาดูดีได้เช่นกัน และคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คงไม่มีใครตัดสินใจได้ว่าหุ้นตัวใดน่าสนใจลงทุนแค่ไหน แต่ต้องอยู่บนการพิจารณาไตร่ตรองในทุกมิติครบทุกด้าน มีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และสามารถประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นเหล่านั้นได้
อย่างในกรณีข่าวที่เกิดขึ้นนั้น หากพิจารณาได้ครบถ้วน ประเมินได้แล้ว อาจจะเป็นโอกาสที่ดี สำหรับผู้ที่มองเห็นก็ได้ ไม่แต่เฉพาะในกรณีของ BWG เท่านั้นนะครับ ก็จะทำให้เราไขว่คว้าโอกาสงามที่เข้ามา แล้วจะได้ไม่ต้องมีคำบ่นตามมาทีหลังว่า “รู้งี้” เมื่อราคาหุ้นวิ่งไปไกลถึงตอนนั้นก็สายเสียแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกพิจารณาตัดสินใจลงทุนในหุ้นใดๆก็ตาม ต้องพิจารณาด้วยปัจจัยพื้นฐาน ข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน ที่มีข้อเท็จจริง โดยไม่หลงเชื่อไปกับกระแสข่าวแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะนั่นจะทำให้เสียโอกาสดีๆ ที่จะทำกำไรอย่างงดงามไปนะครับ