ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทัศนคติของ ไดโนเสาร์เต่าล้านปี VS เด็กรุ่นใหม่

โดย กองแก้ว
เผยแพร่ :
464 views

 ทัศนคติของ ไดโนเสาร์เต่าล้านปี VS เด็กรุ่นใหม่ :

A. ไดโนเสาร์เต่าล้านปี :

A.1) คําว่า “ ไดโนเสาร์เต่าล้านปี " หมายถึง ” คนสมัยโบราณ หรือ คนยุคโบราณ "

A.2) ไดโนเสาร์เต่าล้านปีมักจะปลูกฝังให้ลูกหลานเรียนหนังสือให้เก่งๆให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งหมายถึงให้เข้ารับราชการหลังจากเรียนจบออกมา

A.3) ไดโนเสาร์เต่าล้านปีมักจะปลูกฝังปลูกฝังให้ลูกหลานซื้อบ้านเป็นทรัพย์สินชิ้นแรกในชีวต หลังจากนั้นจึงค่อยซื้อรถ แล้วค่อยแต่งงานมีลูกมีเต้าตามลําดับ เพราะฉะนั้นลูกหลานของไดโนเสาร์เต่าล้านปี จะต้องเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มทํางานไปจนเกบียณจากการทํางานเพราะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และผ่อนหนี้สินทุกอย่างที่เกิดจากการแต่งงาน ระหว่างที่ทํางานถ้าเงินไม่พอใ้ช้ก็ให้กู้ยืมจากสินเชื่อส่วนบุคคลเสริมเข้าอีก พร้อมกับบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตนับได้อีกเป็น 10 ใบ ในเมื่อเงินไม่พอใช้เพราะภาษีสังคมมากเหลือเกิน ก็ให้กู้มาใช้จึงจะพอ

A.4) พอมีเงินเหลือเก็บ ก็ให้ฝากเงินไว้กับธนาคารเพราะมั่นคงสุดๆ อาจจะมีหุ้นกู้หรือพันธบัตรรัฐบาลบ้างถ้ามีเงินเหลือ ไอ้ที่จะเหลือไปซื้อหุ้นก็น้อยเต็มที อาจจะมีเพียงไม่กี่หมื่นกี่แสนบาท อายุก็ปาเข้าไป 60 ปี และต้องเกษียนออกจากราชการแล้ว ซึ่งก็ดีหน่อยที่มีบํานาญกิน เดือนละไม่กี่หมื่นบาท ซึ่งก็ไม่พอใช้อยู่ดี คิดว่าจะไปอาศัยลูกก็เป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็มีลูกหลายคนที่จะต้องเลี้ยงดู ในขณะเดียวกันกับมรดกจากพ่อแม่ก็ไม่มี

A.5 ) ห้ามลูกหลานลงทุนใน Crytocurrency เพราะเขาได้ยินมาว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงแบบสุดๆ

B. เด็กรุ่นใหม่ :

B.1) เรียน และทํางานในสาขาวิชาที่ตัวเองชอบ

B.2) ไม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็เลยไม่ต้องก่อหนี้สินก้อนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต อาศัยเช่าอยู่ที่คอนโดหรือหอพัก และเดินทางโดยรถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะ เงินที่เหลือทั้งหมดลงทุนใน Cryptocurrency ตอนตลาดหมีแล้วถือลงทุนไปในระยะยาว พออายุ 40 ปี ก็มีเงินเก็บเหลือเฟือ อยากจะแต่งงานมีลูกมีเต้าก็ทําได้ ไม่เคยสนใจบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคล แม้แต่น้อย

B.3) พอเกษียณก็มีเงินเหลือเฟือจาการลงทุนใน Cryptocurency ในช่วงตลาดหมีแล้วถือลงทุนในระยะยาว รวยจนมีความเป็นอิสระทางด้านการเงินได้เลยตั้งแต่ิอายุ 60 ปีเป็นต้นไป

B.4) เด็กรุ่นใหม่รู้ดีว่าตอนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายจากยุค Web 2.0 เป็น Web 3.0 จึงลงทุนใน LUNC ที่ 0.000017 USD เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2022 และ Bitcoin ที่ 17,708.62 USD เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2022 และเมื่อ Web 3.0 เจริญเติบโตเต็มที่ในวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2042 เด็นรุ่นใหม่ก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐีทันที 

หมายเหตุ : 1) Web 2.0 คือ ธนาคารพาณิชย์, Apple, Google, Amazon, Microsoft และ Facebook ซึ่งเป็นการทําธุรกรรมผ่านตัวกลางคือธนาคารพาณิชย์ และ Servers ต่างๆ เป็นต้น

2) Web 3.0 หรือ Blockchain Technology คือทําธุรกรรมที่ไม่ผ่านตัวกลางหรือที่เรียกว่าระบบ Peers to Peers  โดยผ่าน Nodes ของระบบ Blockchain Technology ซึ่งได้แก่ Crytocurrency, Central Bank Digital Currency ( CBDC ), GameFi, Defi, AR/VR, NFT และ Metaverse เป็นต้น

โปรดติดตามรายละเอียดได้ในลิ้งค์เพจด้านล่าง :

https://www.facebook.com/luncvsbitcoin

 

 


กองแก้ว