ไม่รู้ใครเขียน ส่งต่อกันมาทาง Line
เรื่องการลงทุนไม่ใช่แค่เรื่องของการเงิน ไม่ใช่เรื่องของเศรษฐศาสตร์ แต่การลงทุนเป็นจิตวิทยาหนังสือ “จิตวิทยาการลงทุน The Psychology of Investment” แต่งโดย John R. Nofsinger แปลโดยพรชัย รัตนนนทชัยสุข นักเขียนเรื่องหุ้นอีกท่านหนึ่งที่มีความชื่นชอบในตัวของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จนแปลหนังสือของวอร์เรนออกมาเป็นภาษาไทยหลายต่อหลายเล่ม เช่นเดียวกับ เป็นหนังสือดีอีกเล่มหนึ่งที่เป็นที่ต้องการของตลาด และนักลงทุนทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า
เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงปัจจัยหลัก ๆ ที่ส่งผลให้มีการเคลื่อนไหวในตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดค่าเงิน Future Options รวมถึงพฤติกรรมความเป็นจริงของนักลงทุนในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมการลงทุนที่สนใจในแง่ตรรกะมากกว่าอารมณ์ โดยเนื้อหาหของหหนังสือเล่มนี้เป็นแหล่งรวมของบทสรุปเกี่ยวกับความรู้เรื่องหุ้นที่นักลงทุนอยากรู้ เช่น
- Disposition Effect เหตุใดที่ผู้คนจะหลีกเลี่ยงการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียใจ และหาการกระทำที่ทำให้เกิดความภูมิใจ (Regret and Pride)
- Overconfidence ความมั่นใจเกินไป ทำให้นักลงทุน Trade เกินขนาดของ port หรือประเมินความเสี่ยงที่ต่ำไป
- House – Money Effect การลงทุนเล่นเมื่อได้กำไรจากครั้งก่อนหน้า ด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
- Snake – Bite Effect เมื่อเมื่อนักลงทุนขายขาดทุน ส่วนนึงจะเข็ดขยาดและเลิกเล่น และอีกส่วนนึงจะต้องเอาการเอาคืน
- Trying to break Even Effect ผลตรงข้ามจาก การจะเอาคืน เมื่อนักลงทุนขาดทุนมาก จะต้องการเอาคืนโดยลงหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น
- endowment effect ภาวะที่อาจเกิดฟองสบู่จากการตั้งราคาที่คิดว่าจะขายสูงกว่าราคาตลาด ในขณะที่คุณเป็นเจ้าของอยู่
- Status quo bias ความคล่องตัวในการโยกย้ายสถานะและอย่าให้มีรากงอก
- Cognitive Dissonanceนักลงทุนเผชิญ ความคิดที่เป็นบวกและลบในเวลาเดียวกัน นักลงทุนจะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด และเลือกที่จะพิจารณาข้อมูลที่เป็นบวก และละเลยข้อมูลที่เป็นลบ
- Sunk cost Effectต้นทุนจม เมื่อนักลงทุนมีพอร์ตที่ขาดทุนมากๆ จะไม่ยอมขายเป็นสาเหตุให้ นักลงทุนจะถือส่วนที่ขาดทุนไปอย่างยาวนาน
- Representativeness and familiarity ภาวะของความคุ้นเคย นักลงทุนจะคิดว่าผลการดำเนินการ และผลตอบแทนที่ผ่านมาในอดีต จะต่อเนื่องไปในอนาคต
- Social interaction การบริโภคข้อมูลที่มากเกินไปทั้งแง่บวกและแง่ลบ ที่อาจส่งผลให้เกิดอคติเชิงจิตวิทยา เช่นการขาดทุนหมู่ หรือกลัวไม่ได้กำไร