ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
79 views

คิดเป็นเห็นก่อน - 1700 จุดปีนี้
ก็ไม่ธรรมดา ปีหน้า 2000 จุด!!!

อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก https://www.thunhoon.com/ptt-294/

 

1700 จุดปีนี้ก็ไม่ธรรมดา ปีหน้า 2000 จุด!!!

 

ภาพการแกว่งตัวของตลาดหุ้นไทย หลังจากทะยานปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเหนือกว่าที่คาดกันมาเดือนกว่า ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตาม การประลองกำลังระหว่างแรงขาย กับแรงสู้ซื้อว่าใครจะเป็นฝ่ายมีชัยซึ่งตรงนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าแรงซื้อชนะขาดลอย ตลาดเป็นกระทิงไปแล้ว แม้จะมีโอกาสแกว่งตัวได้บ้างในช่วงเดือนนี้ แต่แนวโน้มน่าจะจำกัดในขาลง เพราะด้วยปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเดินหน้าไปต่อได้

 

การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยรอบนี้ มาพร้อมการไหลเข้าของ Fund Flow ที่นักวิเคราะห์มองกันว่าจะไหลเข้าได้อีกในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยในระดับต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต และการเมืองไทยกำลังเดินไปสู่การเลือกตั้งชัดเจนแล้ว  นอกจากนี้อานิสงค์เรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นแรงหนุนที่สำคัญ ดังนั้นหากตลาดเกิดการปรับฐานก็น่าจะเป็นจุดทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคายังไม่ขึ้นมาก  P/E - P/BV ต่ำและมีแนวโน้มสดใสตามภาวะเศรษฐกิจเหมือนกัน

 

โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดโดยรวม นำโดยกลุ่มพลังงานอย่าง PTT ที่มองว่าราคาเมื่อเทียบกับผลกำไรปีนี้โอกาสแตะแสนล้านบาทมีสูงและ แนวโน้มราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้น  รวมถึงหุ้นในตระกูลอย่าง PTTEP ,PTTGC ที่น่าสนใจไม่น้อย

 

กลุ่ม BANK ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจเสมอและเป็นกลุ่มแรกที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 เป็นกลุ่มแรก จะได้ผลดีโดยตรงจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และคาดว่าแรงกดดันจากการตั้งสำรองหนี้ จะค่อยๆ ลดลง การขยายตัวของสินเชื่อจะฟื้นขึ้นเป็นลำดับ จะสังเกตเห็นได้ว่ายามใดที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นแรงๆมักจะมีหุ้นกลุ่ม BANK เป็นแรงหนุนสำคัญเสมอ เพราะเป็นที่หมายปองของกองทุนและต่างชาติ จากราคาหุ้นที่ไม่แพง P/E ไม่สูง บางตัวราคาต่ำกว่าบุ้คเสียด้วยซ้ำ เงินปันผลยิ่งไม่ต้องพูดถึงน่าสนใจอยู่แล้ว

 

กลุ่มสื่อสาร ADVANC ,TRUE, DTAC ที่วันนี้ราคาหุ้นได้สะท้อนความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลจากการประมูล 4G ไปแล้ว การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการทั้ง 3 ค่ายได้ลดความร้อนแรงลง จะทำให้ควบคุมต้นทุนในการบริหารจัดการได้ดี ส่งผลให้ผลประกอบการในธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้เทคโนโลยี ที่ย่อโลกมาไว้เพียงแค่ฝ่ามือจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้ดาต้าและการบริการโครงข่ายของผู้ให้บริการเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีกมาก ธุรกิจเทคโนโลยียังเป็นขาขึ้นต่อไปได้อีกในอนาคต

 

กลุ่มค้าปลีก ที่เพิ่งเริ่มจะขยับและกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และราคามีการทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่าง CPALL HMPRO ROBINS BEAUTY เป็นต้น ที่จะได้อานิงสงค์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยหนุนบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของการบริโภคและหุ้นค้าปลีกภายในประเทศ และคาดว่าช่วงปลายปีภาครัฐจะมีนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายการบริโภคของประชาชนเพิ่มเติมเข้ามาอีกเพื่อผลักดันการขยายตัวของ GDP ให้ได้ตามเป้าหมาย

 

อีกกลุ่มที่กำลังมาแรงคือ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและนโยบาย EEC อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง  STEC, CK, UNIQ  และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม WHA, AMATA, TICON  เหล่านี้เป็นต้น

 

สรุปแล้วตลาดหุ้นไทยก็ยังสามารถขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปได้ บางโบรกเกอร์มีการให้เป้าหมาย Set Index ปีหน้าจะทะลุ  2000 จุดกันเลยทีเดียว ส่วนในปีนี้หากจะอยู่บริเวณ 1700 จุดก็ถือว่ามาได้ไกลกว่าที่คาดแล้ว อย่างไรเสียเราที่เป็นนักลงทุนที่ทำมาหากำไรในตลาดทุนก็คงต้องอยากให้ตลาดมีการปรับตัวขึ้น ขึ้น ขึ้น สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับตัวเอง  คงไม่มีใครอยากให้ตลาดลง ลง ลง เป็นแน่ ใช่มั๊ยล่ะครับ


ชัจจ์ปัณฑ์