ห้องเม่าปีกเหล็ก

Nvidia ยังแรง! ทุบสถิติรายได้ AI

โดย INFINITY
เผยแพร่ :
41 views

Nvidia ยังแรง! ทุบสถิติรายได้ AI 

Nvidia รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2025 ด้วยตัวเลขที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ถึงระดับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์สูงสุดไว้

 

รายได้รวม: 39.3 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 78% จากปีก่อน)

กำไรต่อหุ้น (EPS) ตามมาตรฐาน GAAP: $0.89 (สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ $0.84)

รายได้จากศูนย์ข้อมูล (Data Center): 35.6 พันล้านดอลลาร์ (สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 34.1 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 93% จากปีก่อน)

รายได้จาก Gaming: 2.5 พันล้านดอลลาร์ (ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.02 พันล้านดอลลาร์)

รายได้จาก Automotive: 570 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 103% จากปีก่อน)

 

แนวโน้ม Q1 2026 แข็งแกร่ง แต่ยังเผชิญความท้าทายจาก AI จีน

Nvidia คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2026 จะอยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 42.05 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขประมาณการสูงสุดที่ 48 พันล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ Nvidia เผชิญความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันจาก DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากจีนที่เปิดตัวโมเดล AI ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลงในการพัฒนาและใช้งาน ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าองค์กรอาจลดการใช้จ่ายในชิป AI ของ Nvidia

 

นักวิเคราะห์จาก Truist Securities ระบุว่า

> "โมเดล AI ใหม่จากจีนใช้ต้นทุนในการพัฒนาและใช้งานต่ำกว่าคู่แข่งตะวันตกอย่างมาก"

ปัจจัยนี้ทำให้เกิดแรงเทขายในหุ้น AI โดยเฉพาะ Nvidia โดยเมื่อปลายเดือนมกราคม บริษัทสูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 589 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม CEO Jensen Huang มองว่าสิ่งนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของ AI และเชื่อว่า Nvidia ยังมีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Blackwell AI

 

Blackwell AI: เทคโนโลยีเรือธงของ Nvidia ที่มาแรงที่สุด

Blackwell AI ทำรายได้ 11 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของการเปิดตัว

"การเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Nvidia"

ได้รับความนิยมสูงจากผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น AWS, Google Cloud, Microsoft Azure และ Oracle

 

Jensen Huang กล่าวว่า:

> “เราได้ขยายกำลังการผลิต Blackwell AI supercomputers ขนาดใหญ่ และทำรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของการเปิดตัว ความต้องการ Blackwell นั้นมหาศาล”

Nvidia เชื่อว่า Blackwell จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยาย AI สู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

 

หุ้น Nvidia ผันผวน แต่ยังครองตลาด AI อย่างมั่นคง

Nvidia ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของศูนย์ข้อมูลที่อาจชะลอตัว รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขัน AI ของจีน

หุ้นของบริษัทลดลง 2.2% ในปี 2025 หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลในปี 2023 และ 2024

อย่างไรก็ตาม ลูกค้ารายใหญ่ของ Nvidia เช่น Microsoft, Google Cloud, AWS และ Oracle Cloud ยังคงเดินหน้าลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์บางส่วนอาจมองว่าการเติบโตของ Nvidia เริ่มชะลอลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่บริษัทก็ยังเป็น "เจ้าตลาด AI" แบบไร้คู่แข่ง ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม

CFO Commentary: วิเคราะห์เชิงลึกผลประกอบการ Nvidia

สรุปผลประกอบการตาม GAAP (ไตรมาสที่ 4 ปีงบ 2025)

รายได้รวม: 39.3 พันล้านดอลลาร์ (+12% QoQ, +78% YoY)

กำไรต่อหุ้น (EPS) GAAP: $0.89 (+14% QoQ, +82% YoY)

กำไรสุทธิ (Net Income): 22.1 พันล้านดอลลาร์ (+14% QoQ, +80% YoY)

กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income): 24.0 พันล้านดอลลาร์ (+10% QoQ, +77% YoY)

อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin): 73.0% (ลดลง 1.6% จากไตรมาสก่อน)

รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจ

- Data Center | 35,580 ล้านดอลลาร์ (+93% YoY)

- Gaming | 2,544 ล้านดอลลาร์ (-11% YoY)

- Professional Visualization | 511 ล้านดอลลาร์ (+10% YoY)

- Automotive | 570 ล้านดอลลาร์ (+103% YoY)

- OEM และอื่นๆ | 126 ล้านดอลลาร์ (+40% YoY)

 

เงินสดและกระแสเงินสด

 

เงินสดในมือ: 43.2 พันล้านดอลลาร์ (+66% YoY)

กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow): 16.6 พันล้านดอลลาร์

เงินปันผล: $0.01 ต่อหุ้น (จ่ายวันที่ 2 เม.ย. 2025)

 

ไฮไลต์สำคัญของ Nvidia ที่น่าจับตา 

 

รายได้ศูนย์ข้อมูลทั้งปีเพิ่มขึ้น 142% แตะ 115.2 พันล้านดอลลาร์

Compute & Networking รายได้พุ่งขึ้น 145% จากปีก่อน

Gaming รายได้ลดลง 11% จากปีก่อน

Automotive รายได้พุ่งขึ้น 103% จากปีก่อน

ประกาศความร่วมมือกับ AWS, Microsoft, Google และ Oracle เพื่อนำ GB200 AI เข้าสู่ระบบคลาวด์

ร่วมมือกับ Toyota และ Hyundai Motor Group ในโครงการ AI สำหรับยานยนต์

เตรียมจ่ายเงินปันผลไตรมาสถัดไป 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในวันที่ 2 เมษายน 2025

แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันจาก AI จีน แต่ Nvidia ยังคงเป็นผู้นำที่ไม่มีใครโค่นลงได้!

 

Earnings Call

CFO Kress เป็นผู้พูดคนแรกและกำลังสรุปตัวเลขให้เรา รายได้ประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีก่อน ยอดขายศูนย์ข้อมูลก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปีที่ผ่านมา

Kress กล่าวว่ายอดขายของ Blackwell สูงเกินความคาดหมาย และเป็นการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท พวกเขากำลังเพิ่มปริมาณการผลิตและขยายการใช้งาน

สาระสำคัญชัดเจน: หยุดกังวลเกี่ยวกับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราได้แล้ว

ถัดไปในสายการประชุม Kress กำลังพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “Post Training” ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อข้อกังวลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโดย DeepSeek สตาร์ทอัพจากจีน Nvidia ระบุว่าวิธีการฝึก AI รูปแบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความต้องการในผลิตภัณฑ์ของบริษัท และเธอยังกล่าวว่าชิปเซ็ตรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ในลักษณะนี้โดยเฉพาะ

จีนยังคงได้รับการกล่าวถึงตามปกติ รายได้จากที่นั่นต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเนื่องจากข้อจำกัดทางการค้า Nvidia คาดว่ายอดขายในจีนจะคงอยู่ในระดับปัจจุบัน แต่ก็มีการแข่งขันในตลาด

นี่เป็นการเตือนตามแบบฉบับของบริษัทเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเป็นนัยไปยังผู้กำหนดนโยบายในวอชิงตันว่าการเคลื่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกเขาย่อมมีผลตามมา

Nvidia ระบุว่าความต้องการอุปกรณ์เกมยังคงแข็งแกร่งตลอดช่วงวันหยุด อย่างไรก็ตาม รายได้โดยรวมถูกจำกัดเนื่องจากปัญหาด้านอุปทาน ซึ่งสถานการณ์นี้กำลังจะดีขึ้น และจะนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสปัจจุบัน ตามที่ CFO ของบริษัทกล่าว

CFO กำลังอธิบายให้ผู้ฟังเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอัตรากำไรขั้นต้น โดยชี้แจงว่าตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรนี้ลดลง เนื่องจาก Nvidia กำลังส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น Kress ระบุว่าอัตรากำไรจะอยู่ในช่วง “70% ต้น ๆ” และเมื่อผลิตภัณฑ์เข้าสู่กระบวนการผลิตเต็มรูปแบบ อัตรากำไรจะกลับไปอยู่ที่ระดับ “70% กลาง ๆ” ภายในช่วงปลายปีนี้

 

คำถามแรกในการประชุมเกี่ยวข้องกับรูปแบบการฝึก AI รูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากโมเดลถูกพัฒนาเสร็จแล้ว และผลกระทบต่อความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงข้อกังวลเกี่ยวกับ DeepSeek ของจีน

ตามที่คาดไว้ CEO Huang ตื่นเต้นกับศักยภาพของความต้องการที่เกิดจากกระบวนการ “Reasoning” ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลมากกว่าการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบ “One-shot” เป็นอย่างมาก เขากล่าวว่ากระบวนการนี้อาจต้องใช้พลังการประมวลผลมากกว่าปัจจุบันถึงหลายล้านเท่า

เขากำลังอธิบายเชิงเทคนิคอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการประชุมลักษณะนี้

สาระสำคัญของคำตอบของเขาคือ ชิปของ Nvidia สามารถรองรับทุกอย่าง ตั้งแต่การฝึก (Training) การใช้งานจริง (Inference) ไปจนถึงการให้เหตุผล (Reasoning) และสำหรับ AI ที่สามารถ "คิด" ได้ เขากล่าวว่า “เราทำได้เร็วกว่าเป็นหลายเท่า”

 

คำถามถัดไปมีสองประเด็น ส่วนแรกเกี่ยวกับอัตรากำไรขั้นต้น และส่วนที่สองคือ ความต้องการในตลาดจะยั่งยืนได้อย่างไร?

CFO Kress ตอบว่า เมื่อ Blackwell เข้าสู่การผลิตเต็มรูปแบบ อัตรากำไรจะดีขึ้น เธอย้ำถึงการคาดการณ์ว่าอัตรากำไรจะอยู่ที่ “70% กลาง ๆ” ภายในสิ้นปีนี้ แต่ในตอนนี้ เธอให้ความสำคัญกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าให้ได้มากที่สุด

สำหรับคำถามเกี่ยวกับความต้องการ CEO Huang กล่าวว่า Nvidia มีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล และซอฟต์แวร์ AI กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมด สัญญาณในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวล้วนเป็นไปในทิศทางที่ดี และโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

 

ตอนนี้มีคำถามเกี่ยวกับเวอร์ชันถัดไปของ Blackwell ว่า “Blackwell Ultra” จะส่งผลต่อความต้องการของดีไซน์ปัจจุบันอย่างไร?

Huang ตอบว่าปัญหาที่กระทบกับซัพพลายเชนของ Blackwell ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และสิ่งนี้ไม่ได้ชะลอการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทุกอย่างกำลังเดินหน้าตามแผน

เขาระบุว่า Blackwell Ultra จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง และเน้นว่าการนำไปใช้งานจะเป็นเรื่องง่าย เพราะโดยพื้นฐานแล้วมันยังคงมีโครงสร้างและการใช้งานในระบบที่คล้ายกับเวอร์ชันปัจจุบัน

 

ตอนนี้ Huang กำลังถูกถามเกี่ยวกับชิปแบบคัสตอมที่ลูกค้าของ Nvidia ออกแบบและใช้งานเอง คำถามคือ พวกมันจะถูกนำไปใช้ในรูปแบบใด และจะเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Nvidia อย่างไร?

ตามคาด Huang ยืนยันว่าชิปของ Nvidia มีความเป็นแพลตฟอร์มทั่วไป (General Purpose) มากกว่ามาก และสามารถรองรับทุกขั้นตอนในการพัฒนาและใช้งานซอฟต์แวร์ AI

"เราคือแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนจบ และเราอยู่ทุกที่" Huang กล่าว เขาเน้นว่าสถาปัตยกรรมของ Nvidia เข้าถึงได้ง่ายกว่า และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สูงกว่าถึง 8 เท่า ซึ่งแปลว่า รายได้ของลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

คำถามนี้เป็นประเด็นที่ไม่มีวันหายไปจากวงการ เพราะอย่าลืมว่า ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Nvidia ทุกคนล้วนออกแบบและใช้งานชิปของตัวเอง ทำให้นักลงทุนกังวลว่า สุดท้ายแล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้อาจลดการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Nvidia ลง

แต่ Huang ก็ตอบกลับอย่างเฉียบคมเกี่ยวกับความพยายามของลูกค้าบางรายว่า “แค่มีคนออกแบบชิป ไม่ได้หมายความว่าชิปนั้นจะถูกนำไปใช้งานจริง”

 

ตอนนี้ Nvidia กำลังถูกถามเกี่ยวกับ ความแตกต่างของอุปสงค์ในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะคำถามที่ว่า ความต้องการในสหรัฐฯ สามารถชดเชยผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลที่มีต่อภูมิภาคอื่นได้หรือไม่?

นี่เป็นคำถามเกี่ยวกับ มาตรการกีดกันทางการค้าของวอชิงตันต่อจีน

Huang ตอบว่า รายได้จากจีนในไตรมาส 4 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ถ้าเทียบกับช่วงก่อนที่กฎระเบียบทางการค้าจะถูกบังคับใช้ รายได้นั้นลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง

จากนั้น Huang ใช้โอกาสนี้เปลี่ยนไปพูดถึงประเด็นที่ใหญ่ขึ้นว่า “AI ได้กลายเป็นเทคโนโลยีกระแสหลักแล้ว” เขาเน้นว่าตอนนี้ทุกอุตสาหกรรมเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ และย้ำว่าซอฟต์แวร์และบริการทั้งหมดในอนาคตจะมี AI เป็นส่วนประกอบ

 

คำถามสุดท้ายเกี่ยวกับอัตรากำไร: เพื่อให้บรรลุตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ บริษัทต้องเห็นการปรับปรุงที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง อะไรที่ทำให้ Nvidia มั่นใจ?

CFO Kress ตอบว่า ยังมีโอกาสมากมายในการลดต้นทุน โดยเฉพาะในซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม Nvidia จะเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้ หลังจากแน่ใจว่าลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการแล้ว

ส่วนผลกระทบจากภาษีนำเข้ายังคงเป็นปัจจัยที่ไม่แน่นอน

 

CEO Huang กล่าวปิดท้าย:

“ความต้องการสำหรับ Blackwell นั้นมหาศาล” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า โมเดล Reasoning สามารถใช้พลังการประมวลผลมากกว่าร้อยเท่าของโมเดลทั่วไป และกระแสความตื่นตัวที่เกิดจาก DeepSeek R1 ยิ่งช่วยผลักดันตลาด

เขาทิ้งท้ายให้ผู้ฟังด้วยแนวคิดแห่งความมั่นใจ ว่าแนวทางใหม่ของการปรับแต่งโมเดล AI นั้นส่งผลดีต่อ Nvidia

“เราสร้าง Blackwell ขึ้นมาเพื่อช่วงเวลานี้”

“เราจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2025” Huang กล่าว พร้อมเสริมว่า ศูนย์ข้อมูลจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโรงงาน AI มากขึ้นเรื่อยๆ

Huang กล่าวปิดการประชุม

 

 

ที่มา Facebook Beauty Investor


INFINITY