ต้นทุนสูง-ราคาสินค้าพุ่ง-กำลังซื้อเปราะบาง กดดันความเชื่อมั่นภาคปลีก มิ.ย. ปรับลดลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือนมิ.ย. 65 โดยพบว่า ดัชนี RSI เดือนมิถุนายนปรับลดลงทั้งภาวะปัจจุบัน และระยะ 3 เดือนข้างหน้า โดยต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก รวมถึงราคาสินค้าหลายรายการที่ยังอยู่ในระดับสูงซ้ำเติมกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันด้านราคาที่อาจมีมากขึ้นในระยะต่อไป
ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมทุกภูมิภาคปรับลดลงจากเดือนก่อนหลังสินค้าหลายรายการมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงกังวลกับกำลังซื้อที่อ่อนแอภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการแข่งขันที่สูงขึ้นในภาคการค้า
ในส่วนของความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทร้านค้าปรับลดลงจากเดือนก่อน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ที่ปรับลดลง ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) ปรับเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลจากราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น สำหรับความเชื่อมั่นของร้านสะดวกซื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาซื้อจากร้านค้าที่ใกล้บ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ประเด็นพิเศษ พบว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งเป็นผลจากภาวะราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพหลายรายการปรับสูงขึ้น ตามต้นทุนและค่าขนส่ง นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคปรับลดความถี่ในการใช้บริการลงด้วย
ในส่วนของการประเมินการฟื้นตัวของธุรกิจในภาคการค้า พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่มีความพร้อม ทั้งด้านแรงงาน สินค้า และเงินทุนเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้าหลังการเปิดประเทศ ทั้งนี้ธุรกิจมีสภาพคล่องลดลงโดย 41%มีสภาพคล่องเพียงพอมากกว่า12 เดือน (52% ในเดือนก่อน)