ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTEP โชว์

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
65 views

PTTEP โชว์ผลงานงวด 9 เดือน พลิกเป็นกำไร 1.37 หมื่นลบ.

 

 

 

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 อยู่ที่ 5,446 ล้านบาท จากขาดทุน 46,212 ล้านบาทในงวดเดียวกันปีที่แล้ว

 

ส่วนงวด 9 เดือน ผลประกอบการพลิกมาเป็นกำไรสุทธิ   13,732 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุน 36,283 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

 

ถ้าดูในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ PTTEP มีกำไร 156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 จากที่มีกำไร 15 ล้านเหรียญในงวดเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนงวด 9 เดือน กำไรสุทธิอยู่ที่ 388 ล้านเหรียญฯ จากที่เคยขาดทุน 986 ล้านเหรียญฯ ในงวดเดียวกันปีก่อน

 

รายได้จากการขายในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,047 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสสอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากปริมาณการขายที่ลดลง จากกิจกรรมการซ่อมบำรุงตามแผนงานที่มากขึ้นในไตรมาส 3

 

โดยปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 3 อยู่ที่ 311,386 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลงจาก 320,657 บาร์เรลฯ ในไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังเป็นไปตามแผนงานของบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายรักษาปริมาณการขายทั้งปี 2559 ให้อยู่ที่ระดับเดียวกับปี 2558 ส่วนราคาขายเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 36.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงเล็กน้อยราว 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2

 

กำไรจากการดำเนินงานตามปกติ (Recurring Net Income) ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทฯ บันทึกกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-Recurring) จำนวน 81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เกิดจากกำไรและผลประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงการรับรู้กำไรจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน

 

บริษัทฯ ระบุผลประกอบการยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ  อย่างไรก็ดี เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุน บริษัทฯ จึงสามารถรักษาระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ในช่วง 9 เดือนแรกอยู่ที่ 73% และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก 1,727 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 บริษัทฯ คาดราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 จะสูงขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกของปี จากการร่วมมือกันของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกในการลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบโลก ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปชัดเจนในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ดีมานด์น้ำมันดิบยังเพิ่มต่อเนื่องตามสภาวะเศรษฐกิจโลก

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ระบุถึงปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน ทั้งจากความพยายามที่จะเพิ่มการผลิตของประเทศไนจีเรียและลิเบีย รวมถึงความป็นไปได้ที่ซัพพลายจากสหรัฐฯ จะกลับมาเพิ่มขึ้น

 

PTTEP คาดราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 4 จะผันผวนในช่วง 45-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่อิงกับราคาน้ำมัน แต่หากการเจรจาของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจกดดันให้ราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่าที่คาด 

 

สำหรับราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ มีโครงสร้างราคาส่วนหนึ่งผูกกับราคาน้ำมันย้อนหลังประมาณ 6-12 เดือน จึงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงในไตรมาส 4 นี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ดี จากแผนควบคุมต้นทุน บริษัทฯ จึงคาดว่าจะยังคงสามารถรักษาระดับ EBITDA Margin ที่ 65-70% ได้ และยังคงเป้าหมายรักษาปริมาณการขายอยู่ที่ระดับเดียวกับปี 2558 ที่ราว 322,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

 

สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ยที่จะปรับตัวสูงขึ้นนั้น บริษัทฯ คาดว่าจะไม่กระทบต่อภาระดอกเบี้ยของบริษัทฯ อย่างมีสาระสำคัญ เนื่องจากโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของบริษัทฯ เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่มากกว่า 80% ของภาระหนี้ทั้งหมด

 

ราคาหุ้น PTTEP (ศุกร์ 4 พ.ย.) ปิดที่ 82.50 บาท +0.25% +0.30%

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก


98 Degree