การจบรอบของ Supercycle ในราคาโลหะโลก !!!

หนึ่งใน "Turning points" ที่ทุกคนจับตามองก็คือ "ราคาทองแดงโลก"

ที่เป็นเช่นนี้เพราะนักลงทุนมองว่า ราคาทองแดงเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้นำว่า "เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรต่อไป"

ทองแดงเป็นโลหะที่ถูกใช้แพร่หลายเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเหล็กและอะลูมินัม ใช้ในการก่อสร้าง เครื่องจักร มอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวคึกคัก ราคาทองแดงจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

ช่วงเศรษฐกิจไปไม่ได้ ราคาทองแดงก็จะปรับลดลงมา

แต่ล่าสุด ราคาทองแดงได้ปรับลดลงประมาณ 27.5% เมื่อเทียบกับต้นปี

ราคาทองแดงที่ London Metal Exchange เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงไปอยู่ต่ำกว่า 7,000 ดอลลาร์/ตัน เป็นครั้งแรกในรอบปี

ลงไปต่ำกว่าช่วงปลายปี 2020 เป็นที่เรียบร้อย !!!

รับกับราคาที่ Nasdaq ที่ลงไปอยู่ที่ 323 ดอลลาร์/100 ปอนด์

ทั้งๆ ที่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองแดงยังอยู่ในระดับสูงมาก (ยังเก็งกำไรกันอยู่)

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นมา ด้วยความกังวลใจว่าสหรัฐและอังกฤษจะเกิด Recession นักลงทุนในโลหะก็เริ่มปรับตัว

ยิ่งธนาคารกลางประเทศต่างๆ เข้ามาประสานเสียง รับลูกขึ้นดอกเบี้ยแบบจริงจัง ที่ละ 0.5% 0.75% 1.0% พร้อมๆ กัน ในหลายประเทศ เพื่อจัดการเงินเฟ้อ ในช่วงที่ผ่านมา

ความกังวลใจดังกล่าวจึงเริ่มลุกลาม กลายเป็นความกลัวว่าจะเกิด Global Recessions

กดดันต่อราคา Commodities ต่างๆ

ซึ่งล่าสุด การ Lockdown ในจีนเพื่อสู้กับโควิดในระยะสั้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากปัญหาในประเทศ ได้มาสมทบ ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนมุมมอง

กดดันให้ราคาทองแดง และโลหะต่างๆ ปรับตัวลดลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ Commodities Supercycle ในส่วนของโลหะ ได้จบรอบลงไป

เรียกได้ว่า เป็นหนังคนละม้วนกับเมื่อปีที่แล้วและช่วงต้นปีหลังการเริ่มต้นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่คนพูดกันมากถึง ความร้อนแรงและความน่าสนใจในการเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์

การลดลงของราคาโลหะโลกจะมีนัยยะต่อไปยัง ภาคก่อสร้าง ภาคการผลิต ในทุกประเทศ เพราะโลหะเป็นต้นทุนสำคัญของทุกคน

ช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้การสู้ศึกของธนาคารกลางทั่วโลก ง่ายขึ้น

จากมุมมองนี้ หากจะว่าไป "ความกลัวของนักลงทุนก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน"

เพราะถ้ายังฮึกเหิมเก็งกำไรกันไม่หยุด ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ยังอยู่ระดับสูง ธนาคารกลางก็จะต้องขึ้นดอกเบี้ย "เพิ่มยาแรงอีกขนาน" เพื่อเข้าไปจัดการลดแรงกดดันจากราคาสินค้าเหล่านั้น

แต่ครั้นเมื่อนักลงทุนเริ่มกลัว เริ่ม Exit จากการเก็งกำไรในสินค้า Commodities

การทำงานของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ก็จะง่ายขึ้นอีกนิดครับ

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก..

FB.ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล