ห้องเม่าปีกเหล็ก

มาอัพเดทตลาดภาคบ่ายกันครับ

โดย ทองม้วน
เผยแพร่ :
116 views

18 กันยายน 2562 -- Daily Strategy : บล.คันทรี่ กรุ๊ป

Daily View

คาด SET INDEX มีโอกาสย่อตัวลงในกรอบ 1656 - 1662 เชื่อว่าดัชนีจะถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับตัวลง 6.5% หลังรัฐมนตรีซาอุดิอาระเบียออกมาเปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียล่าสุดนั้นในส่วนที่หายไป 5.7 ล้านบาร์เรล / วัน ปัจจุบันกลับมาผลิตได้ 40% หรือคิดเป็นราว 2 ล้านบาร์เรล / วัน แล้วและจะกลับมาผลิตได้สมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้พร้อมเผยเพิ่มเติมว่าอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 12 ล้านบาร์เรล / วัน ภายในสิ้นเดือน พ.ย. ขณะเดียวกันในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยจะมีเหตุการณ์สำคัญอย่างการประชุมประ จำไตรมาสของธนาคารกลางสหรัฐเบื้องต้น Bloomberg Consensus ให้โอกาสลดดอกเบี้ยลง 0.25% ที่ 86% และ ลดดอกเบี้ยลง 0.50% ที่ 14% โดยเราแบ่งเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ดังนี้

1.ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% พร้อมกับประธานเฟดยังคงให้ถ้อยแถลงไปในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องสำหรับระยะถัดไป หากเป็นเช่นนี้ประเมินเป็นกลางต่อดัชนี

2.ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ส่งสัญญาณต่อดอกเบี้ยในระยะถัดไปไม่ชัดเจนคาดดัชนีย่อตัวลง เนื่องจาก ณ ตอนนี้ตลาดยังคงมองว่าเฟดจะทำการลดดอกเบี้ยแบบขาลงต่อเนื่อง (-)

3.ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยลง 0.5% พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนี้คาดดัชนีปรับตัวขึ้นทันที แต่ให้น้ำหนักเกิดขึ้นน้อย (+)

4.ธนาคารกลางสหรัฐคงดอกเบี้ย หรือ ไม่ลดตามตลาดคาด พร้อมไม่ส่งสัญญาณใดๆต่อทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป (-)

5.ธนาคารกลางสหรัฐคงดอกเบี้ย แต่เปิดโอกาสต่อการลดดอกเบี้ยในระยะถัดไป หากเป็นเช่นนี้ประเมินปรับฐานช่วงสั้นแต่น่าจะฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป

 

Daily Strategy

หากนักลงทุนไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐแนะขาย ทำกำไร หรือ ไม่ถือหุ้นข้ามวัน สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ได้แก่ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับฐานลง อาทิ สายการบิน (AAV BA THAI) รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (SCC TASCO) กลุ่มขนส่ง (WICE)

WICE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 4.7 บาท) เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q19 จะฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY จากค่าใช้จ่ายในการเปิดดำเนินงานธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนที่บริษัทถือหุ้น 40% จะลดลง รวมถึงการปรับราคาการให้บริการตามค่าระวางที่เพิ่มขึ้นโดยเราคาดว่าธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (15% ของรายได้ใน 1H19) จะเป็นตัวผลักดันผลประกอบการใน 2H19 จากค่าขนส่งที่ถูกกว่าการขนส่งทางอากาศและ ระยะเวลาในการขนส่งน้อยกว่าการขนส่งทางทะเล

SABINA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 19-20E จะเติบโตก้าวกระโดดกว่าปีละ 18% หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทที่เราคาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 53%-55% ในปี 19-22E จากเดิมในปี 17 และ 18 ที่อยู่ที่ 50.9% และ 51.6% ตามลำดับเนื่องจากบริษัทมีการปรับเปลี่ยนว่าจ้างให้ผู้ผลิตในจีนผลิตให้ ซึ่งผู้ผลิตในจีนสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีกว่าบริษัทผลิตเอง

Analyst : Sittidath Prasertrungruang
Registration No. 17618
Tel. +66 2205 7000 ext. 4400
Assistant Strategist : Vathan Jitsomnuk


ทองม้วน