JTS ประกาศหยุด “เหมืองบิทคอยน์”
จ่อย้ายฐานการขุดไปต่างประเทศ
หลังต้นทุนค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงต่อเนื่อง

.
JTS ชี้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการหยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือน มกราคม 2566 และพิจารณาทางเลือกในการย้ายฐานการขุดบิทคอยน์ไปยังต่างประเทศ ล่าสุดปี 65 มีเหรียญบิทคอยน์รวมทั้งสิ้น 179.32695842 เหรียญ
.
นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงติดตามสภาวการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์อย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
ดังนั้นจึงได้ดำเนินการหยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือน มกราคม 2566 และพิจารณาทางเลือกในการย้ายฐานการขุดบิทคอยน์ไปยังต่างประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านทรัพยากรต่างๆ และการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ตํ่า
.
อีกทั้งจะต้องสามารถบริหารจัดการเครื่องขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยของการเข้าถึงเครื่องขุดบิทคอยน์ เพื่อให้ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ของบริษัทสามารถแข่งขันในระดับสากล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
.
โดยในปี 2566 ผลกระทบและการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้ลดลง และทางบริษัทเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะมีการขยายตัวและมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นในธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจจัดหา ออกแบบและวางระบบคอมพิวเตอร์
.
ทั้งนี้เน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ท (Internet Service Provider) อีกทั้งให้ความสำคัญกับธุรกิจทางด้านพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดตามเทรนด์รักษ์โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการแบบครบวงจรสำหรับโซลาร์เซลล์
.
สำหรับผลประกอบการปี 2565 มีขาดทุนสุทธิจำนวน 105.28 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 มีกำไรสุทธิ 221.04 ล้านบาท โดยต้นทุนขายและบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร 2,357.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.71% เมื่อเทียบกับปี 2564 ประกอบด้วย ต้นทุนขายและบริการ จำนวน 1,517.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.95%
.
ต้นทุนเหมืองขุดบิทคอยน์ จำนวน 632.88 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิทคอยน์ จำนวน 271.26 ล้านบาท และขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากการด้อยค่าของอาคารและอุปกรณ์ และเงินจ่ายล่วงหน้าค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ จำนวน 361.62 ล้านบาท ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเครื่องขุดบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้นจาก 325 เครื่องเป็น 2,641 เครื่อง
.
รวมถึงขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นเกิดขึ้นดังกล่าวเนื่องจากราคาเหรียญบิทคอยน์มีมูลค่าลดลงอย่างเป็นสาระสำคัญ จากมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเหรียญบิทคอยน์ (USD 46,306.45) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นมูลค่า 0.569 ล้านบาทต่อเหรียญบิทคอยน์ (USD16,547.50) ณ วันที่31 ธันวาคม 2565 ดังนั้น ทางบริษัทฯ จึงต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่องการด้อยค่าของสินทรัพย์
.
ทั้งนี้ในปี 2565 มีเหรียญบิทคอยน์รวมทั้งสิ้น 179.32695842 เหรียญ เพิ่มขึ้น 160.14319404 เหรียญบิทคอยน์ หรือเพิ่มขึ้น 1,669.57%