ห้องเม่าปีกเหล็ก

DNA ติดบ่วงโกงบิตคอยน์

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
71 views

แม้ว่าผู้บริหาร บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด ( มหาชน ) หรือ หุ้น DNA จะปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคดีฉ้อโกง นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา นักลงทุนชาวฟินแลนด์ แต่คำปฏิเสธ ไม่อาจเรียกความมั่นใจของนักลงทุนได้ หุ้นจึงถูกถล่มขายอย่างต่อเนื่อง

DNA ตกอยู่ในมรสุมข่าวร้ายกระหน่ำ เพราะคดีการฉ้อโกงเงินดิจิทัล บิทคอยน์ จำนวน 5,564 เหรียญ คิดเป็นเงินประมาณ 797 ล้านบาท มีอดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้าไปมีส่วนพัวพัน

นอกจากนายปริญญา จารวิจิต อดีตกรรมและผู้ถือหุ้นใหญ่ DNA ซึ่งหนีออกไปนอกประเทศ โดยถูกระบุว่าเป็นตัวการใหญ่ในการวางแผนหลอกต้มนายเออาร์นี แล้ว ยังมีอดีตนายทหารผู้กว้างขวาง นายธรรมนัส พรหมเผา หรือผู้กองธรรมนัส ซึ่งถือหุ้นใหญ่ DNA ปรากฏชื่อร่วมขบวนการด้วย และอยู่ในข่ายที่ตำรวจกองปราบปรามจะออกหมายเรียก

ผู้กองธรรมนัส มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ DNA เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 หลังจากได้โอนหุ้นจากนายปริญญา จำนวน 8.05 % ของทุนจดทะเบียน โดยการได้มาซึ่งหุ้น DNA เป็น “ ปม  ที่กองปราบปราม ฯ เตรียมสอบสวนว่า เข้าข่ายการร่วมฟอกเงินหรือไม่

ชื่อของผู้กองธรรมนัส ที่พัวพันคดีโกงเงินบิทคอยน์ ผู้บริหาร DNA จะปฏิเสธสาธารณชนได้อย่างไรว่า DNAไม่เกี่ยวกับขบวนการต้มตุ๋นและฟอกเงิน

ใครเป็นคนชวนหรือเชิญผู้กองธรรมนัส เข้ามาในแวดวงตลาดหุ้น และเข้ามารับภารกิจอะไร สังคมต้องการรู้ และ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด ที่อยู่ระหว่างถูกพักใบอนุญาตการเป็นผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ ยอมรับแล้วว่า เป็นคนดึงผู้กองธรรมนัสเข้ามาในแวดวงตลาดทุน

ช่วงนี้นักลงทุนควรถอยห่างจากหุ้น DNA เพราะ นอกจากมีข่าวร้ายคดีโกงบิทคอยน์แล้ว ผลประกอบการในอดีตจะย่ำแย่ ขาดทุนหลายปีติดต่อ และเป็นหุ้นร้อนที่ดูเหมือนมีเจ้ามือดูแล

ก่อนที่จะมีข่าวฉาวโฉ่ การโกงเงินบิทคอยน์ โดย DNA ถูกพาดพิง ราคาหุ้นถูกกระชากขึ้นไป 4 วันติด ปรับตัวขึ้น 100 % พร้อมกับหุ้นตัวลูก DNA-W1 ที่ดีดตัว 100 % ตาม ทั้งที่ไม่มีข่าวดีสนับสนุน และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพิ่งประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย เมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด

ราคาหุ้น DNA กำลังหัวทิ่มลง จากวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ขึ้นไปสูงสุดที่ 88 สตางค์/หุ้น เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมกลับทรุดลงมาปิดที่ 49 สตางค์ เป็นการซึมซับรับข่าวร้ายคดีโกงบิทคอยน์ และ มาตรการกำกับการซื้อขายเต็มเปา และ ทิศทางราคาหุ้นในระยะสั้นไม่สดใสนัก

เพราะยังไม่รู้ว่า จะได้รับผลกระทบจากคดีโกงบิทคอยน์ ในประเด็นไหนเข้ามาอีก โดยยังมีประเด็นข้อตกลงการซื้อขายหุ้น DNA จำนวน 500 ล้านหุ้น ระหว่างนายประสิทธิ์กับนายเออาร์นี เป็นคดีความกันอยู่ เนื่องจากนายประสิทธิ์ส่งมอบหุ้นให้ได้เพียง 345 ล้านหุ้นเท่านั้น

ปัญหาที่กองปราบปราม และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะต้องสอบสวนคือ นายประสิทธิ์นำหุ้น DNA จากไหนไปขายนายเออาร์นี ทำธุรกรรมซื้อขายกันถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และโอนใส่ชื่อใครเป็นผู้รับ หรือใช้ “นอมินี” เพราะไม่ปรากฏชื่อนายเออาร์นีถือหุ้นใน DNA

สถานการณ์หุ้น DNA ยังไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะวอแรนต์ เพราะหากนักลงทุนพลาดเข้ามา ติดกับ  อาจต้องแบกภาระหนัก เพราะกำหนดสัดส่วนการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญไว้สูงลิบลิ่ว เพียง 1วอแรนต์ แปลงเป็นหุ้นสามัญได้ 5 หุ้น แม้จะกำหนดอัตราแปลงสภาพเพียงหุ้นละ 10 สตางค์ก็ตาม

แต่เมื่อหมดอายุไขในเดือนกันยายนนี้ ใครถือไว้ ต้องควักเงินก้อนโตใส่ โดยไม่รู้ว่า กิจการจะฟื้นจริงหรือไม่ และถ้าผลประกอบการยังฟุบ เงินที่ถมลงไป จะเสียหายซ้ำสองอีก

สัญญาณถอยออกจากหุ้นตัวนี้ เกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว นับตั้งแต่ผลประกอบการขาดทุนหลายปีติดต่อ ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่รับรองงบการเงิน และการที่นายปริญญา เทหุ้นไปให้ผู้กองธรรมนัส

สัญญาณที่เตือนนักลงทุนซ้ำคือ ข่าวการโกงเงินบิทคอยน์ นักลงทุนชาวฟินแลนด์วงเงินเกือบ 800 ล้านบาท ซึ่งดึงให้ DNA เข้าไปติดบ่วง

หุ้นตัวนี้จะถูกปกคลุมด้วยข่าวร้ายอีกพักใหญ่ และกลายเป็นหุ้นร้อนที่ไม่ควรแตะ

หมายเหตุ 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com


ศักดิ์