ห้องเม่าปีกเหล็ก

ช่วงนี้จะเก็บหุ้นตัวไหนดี?

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
67 views

ในสถานการณ์ที่โควิด-19 ระบาดเป็นสถิติใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนไม่สู้ดี ทำให้นักลงทุกไม่ค่อยสนใจลงทุนกลุ่มโรงแรม สายการบิน การค้าปลีก การส่งออก แต่ในปัญหาก็มีโอกาสเพราะในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งรวมถึงไทย มีการดำเนินนโยบายเดียวกัน คือ การใช้พลังงานสะอาด และแรกที่เรานึกถึงคือ รถ EV ทีใช้พลังงานไฟฟ้า หรือนักลงทุนท่านอื่นนึกถึงธุรกิจอะไรกันบ้าง

 

กลับมาที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับรถ EV อย่างหุ้น EPG หุ้นดีที่ต้องมีติดพอร์ต โดยบริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG มีธุรกิจหลัก คือ การถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก ได้แก่ (1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROFLEX" (2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ดำเนินการโดยบริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROKLAS" และ (3) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ดำเนินการโดย บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "EPP"

 

โครงสร้างรายได้ของ EPG จึงมี 3 ช่องทางในปี 63 ดังนี้

 

1.บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) รายได้ 3,012.2 ล้านบาท

 

2.บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) รายได้4,725.6 ล้านบาท

 

3. บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) รายได้2,479.6 ล้านบาท

 

ทำให้รายได้หลักของ EPG คือ ARK ที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ซึ่งข้อมูลที่เรากล่าวไปแล้วจะปูพื้นฐานในนักลงทุนเข้าธุรกิจของ EPG

ขณะที่ปัจจัยสำคัญส่งให้เรามองว่า EPG กำลังไปต่อ ได้แก่

 

1.สินค้าที่เป็นวัตถุดิบของ EPG คือ โพลีเมอร์,พลาสติกแปรรูป ,และยางสังเคราะห์ โดยทั้ง 3 อย่างมีต้นทุนจากราคาน้ำมัน โดยแนวโน้มในปลาย ม.ค. 65มีโอกาสที่จะเจอภาวะน้ำมันล้นตลาด เพราะกลุ่มโอเปกพลัส มีนโยบายผลิตน้ำมันเพิ่ม 400,000 บาร์เรลต่อวัน ใช้ถึงสิ้น ม.ค. 65 และมีโอกาสต่อการผลิตน้ำมันเพิ่ม ประกอบกับแนวโน้มความต้องการน้ำมันมีความเสี่ยงลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ราคาน้ำมันมีโอกาสลดลง และกระทบต่อ EPG เชิงบวก เพราะต้นทุนของโพลีเมอร์,พลาสติกแปรรูป ,และยางสังเคราะห์มีราคาลดลง ส่งให้แนวโน้มกำไรของ EPG จะเพิ่มขึ้น

 

2.ค่าเงินบาทเพราะ EPG ขายสินค้าไปต่างประเทศมากที่ในประเทศ ทำให้นักลงทุนต้องรู้แนวโน้มค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแนวโน้มค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มีโอกาสอ่อนค่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2022 และ 2 ครั้งในปี 2023และอีก 2 ครั้งในปี 2024ทำให้คาดการณ์ว่า การลด QE ของสหรัฐฯจะจบลงในเดือน มี.ค. 2022 (หากใน มี.ค. ลด QE 45,000 ล้านดอลลาร์) หรือ พ.ค. 2022(หากใน มี.ค. ลด QE 30,000 ล้านดอลลาร์ และ พ.ค. ลด QE 15,000 ล้านดอลลาร์ ) ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยจะเท่ากับว่าในช่วง 2022-2024 จะเห็นการขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้ง และดอกเบี้ยในปลาย 2024 จะแตะ 2% และปัจจัยจากการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็ง และค่าเงินบาทอ่อนค่า

 

 

กลยุทธ์การลงทุน EPG หลังจากที่เรามองสองปัจจัยบวกสำคัญไปแล้ว เราจะมาวิเคราะห์ราคากันบ้าง โดยระยะกลางเป็น Sideway กรอบ 10.3-13.7 บาท และปัจจุบันราคาอยู่กรอบล่าง เราจึงแนะนำซื้อโซน 10.70-11 บาท เป้าหมาย 13-13.70 จุด Stop 10.3 บาท

ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด


คนเล่นหุ้น