บล.เคจีไอ มุมมองตลาดเดือนธันวาคม ความไม่แน่นอนของ COVID-19 ที่กลับมาอีกระลอกจะทำให้ตลาดผันผวน แต่มองว่าราคาหุ้นมี downside จำกัด ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากสองปัจจัยสำคัญ ได้แก่ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron และแนวโน้มนโยบายการเงินโลก จะส่งผลให้ตลาดผันผวนในระดับสูงต่อไป ฝ่ายวิจัยคิดว่ากระแสข่าวเกี่ยวกับสายพันธุ์ Omicron จะกดดันภาวะตลาดหนักขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากมีรายงานว่าหลายประเทศ พบผู้ติดเชื้อ Omicron แล้ว และกลับมาใช้มาตรการทางสังคมที่เข้มงวดขึ้นอีกครั้ง
สำหรับในประเทศไทย ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในขณะนี้ แต่การระบาดของ Omicron อาจจะฉุดให้ตลาดลดลงอีก ส่วนแนวโน้มนโยบายการเงินโลก ทางด้านของ US มีกำหนดประชุมนัดหน้าวันที่ 14-15 ธันวาคม ในขณะที่ ECB มีกำหนดประชุมวันที่ 16 ธันวาคม คิดว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะประเมินความเสี่ยงของสายพันธุ์ Omicron และให้แนวทางที่จะทยอยลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ลง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดจะติดตาม dot-plot จากกรรมการ FOMC อย่างใกล้ชิดในเดือนนี้ ในขณะเดียวกัน ได้ทำการวิเคราะห์ earnings yield gap และประเมินว่า downside ดัชนี SET จะอยู่ที่ 1,566 จุด และในกรณีเลวร้ายที่สุดซึ่งพบการติดเชื้อ Omicron ในประเทศจะอยู่ที่ 1,516 จุด
**ธีมหุ้นเดือนธันวาคม
ใช้กลยุทธ์ barbell ระหว่างหุ้น defensive กับหุ้น market play ที่ถูกเทขายหนัก เนื่องจากยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนในตลาดอีกสองสามปัจจัย และคาดว่าตลาดจะผันผวนหนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ barbell โดย i) ถือหุ้น defensive ที่มีมูลค่าตลาดสูง (large-cap) และจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาใหม่ โดยเราเชื่อว่ารัฐบาลจะออกแพ็คเกจใหม่ออกมาอีกอย่างเช่น ช้อปช่วยชาติ ใน 1Q65 ii) หุ้น market play ที่ถูกเทขายหนัก และมีประเด็นการเติบโตในระยะยาวอย่างเช่นกลุ่มธนาคาร
นอกจากนี้ ธีมสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งธีมที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนในช่วงหลัง ๆ และหลายบริษัทที่ขยายธุรกิจมายังสินทรัพย์ประเภทนี้ น่าจะได้รับความสนใจจากตลาด โดยรวมแล้ว หุ้นเด่นในเดือนธันวาคม ได้แก่ ADVANC*, LH*, BBL*, KBANK*, COM7*, HMPRO* และ JMART*