บทเรียนสำคัญในวันแดงเดือด

บทเรียนสำคัญในวันแดงเดือด

1. ในระยะสั้นตลาดขึ้นลงด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่ในระยะยาวตลาดจะขึ้นลงด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ สุดท้ายราคามันจะวิ่งเข้าหามูลค่าของมันไม่วันใดก็วันหนึ่ง หรือวิธีวิธีหนึ่ง

2. ทุกวันนี้แต่ละกิจการมันก็ดำเนินไปตามปกตินั่นแหละ เพียงแต่มันไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น ถ้าของมันดีจริง เวลาที่ตลาด Panic มันก็โดนขายไปด้วย บางตัวไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยด้วยซ้ำ แต่เชื่อเถอะเดี๋ยวพอฝุ่นหายตลบ ตัวไหนแข็งกว่าตลาดมันจะกลับมา

3. เวลาตลาด Panic มันไม่เคยมีเหตุผล ไม่ต้องไปหา TECHNICAL อะไรมาอธิบายมาก ไม่ต้องไปโทษใคร “ทำไมไม่เข้าใจ ทำไมไม่มองปัจจัยบวกโน่นนี่” ก็ตลาดมันไม่เอาก็คือไม่เอา ไม่ต้องไปเถียง ….ถ้าหลุดต้องทำตามระบบ ทำตามวินัย CUT LOSS คือวินัย ไม่มีข้อต่อรอง...เตรียมเหตุผลกับ TECHNICAL ไว้รอวันหาย Panic

4. เวลาตลาดแดง ๆ แต่ละครั้ง “หาพระหุ้นเอกให้เจอ” มันจะมีตัวที่ลงน้อย ๆ หรือชนะตลาด วงกลมหน้าชื่อมันเอาไว้ แล้วรอวันตลาดกลับมา

5. เชื่อหรือยังว่าคน 90% ในตลาดหุ้น “ขาดทุน” เวลาตลาดขึ้นทุกคนเก่งหมด จิ้มตัวไหนก็ถูกไปหมด แต่เวลาตลาดลงนี่แหละจะเป็นตัววัดว่าใครจะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ ดังนั้นย้ำเสมอ ตลาดไม่เคยง่าย วินัยเป็นสิ่งสำคัญ ความรู้สำคัญที่สุด

6. หนึ่งปีมีสามฤดู ฝน หนาว ร้อน….ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้ ตลาดก็เช่นกัน มีรอบขาขึ้น มีรอบขาลง เวลาขาขึ้นสนุกกับมัน เวลาขาลงต่อว่ามันแล้วเดินออกจากตลาด นั่นคือ “มือสมัครเล่น” ถ้าเป็น “มืออาชีพ” ต้องอยู่กับมันให้ได้ทุกวัน ทุกฤดู …อ่อ ปีนี้ฝนมา พายุมา ก็ต้องหาวิธีรับมือกับมันให้ได้ เพราะ “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

7. หุ้นไม่เคยลงอย่างเดียว เดี๋ยวมันก็ขึ้น เอาสถิติมาดูในโลกใบนี้ ตอนเกิดตลาดหมี ระยะเวลาสั้นกว่าตลาดกระทิง และตอนเกิดตลาดกระทิงผลตอบแทนมากกว่ากันหลายเท่ากับที่ติดลบตอนตลาดหมี….รอ ไม่รู้จะขายถึงเมื่อไหร่ หาหุ้นดีเข้า watchlist ไว้ รอวันเกิด CAPITULATION…ขายครั้งสุดท้ายแล้วเกิดการลากกลับ เมื่อแน่ใจว่ากลับด้านแล้วค่อยซื้อ...มีคนหาเงินจากตลาดด้วยวิธีแบบนี้มาหลายรอบแล้ว

8. อย่าคิด “ล้างพอร์ต” ทั้งหมด แต่ให้ดูเป็น “รายตัว” เสมอ ๆ หุ้นพระเอกแข็งกว่าตลาดตกมานิดหน่อยไม่หลุด CUT ไม่ต้องออก, หุ้นอ่อนแอ ลงมาเยอะมากมายก่อนหน้านี้ ไม่ยอมออก มาออกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง, หุ้นปันผล ราคาไม่ไปไหน ปันมามากกว่าที่ติดลบ ลงนิดหน่อยไม่ต้องไปออก, หุ้นตกตามตลาด ตลาดลงมันลง อันนี้แหละต้องออก

9. “ถ้าทุก ๆ คนคิดเหมือน ๆ กัน ตลาดหุ้นไม่มีวันเกิด ตลาดหุ้นมีคนซื้อ มีคนขาย มีคนคิดต่าง มีคนคิดผิด มีคนคิดถูก ….สำคัญเมื่อถึงเวลาเราคิดผิดมากกว่าถูกหรือเปล่า และที่สำคัญ อะไรที่คนส่วนใหญ่มองไปในทางเดียวกันมาก ๆ ให้ระวัง

10. ห้าข้อรู้ไว้พอร์ตไม่แตก ใช้กันภัยได้เสมอ ๆ หุ้นตัวนี้ทำอะไร, หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นประเภทไหน, เราวาง MM ยังไง กองหน้า กลาง หลัง, เราคำนวณ RRR หรือยัง และเราตั้ง CUT LOSS แล้วหรือยัง..ทำตามนี้ยังไงพอร์ตไม่มีวันแตก

11. อีกอย่างที่เขียน ที่สอนเสมอ ๆ ….Saving มีเงินเก็บอย่างน้อย 1 ปี ที่เหลือแบ่งมาลงทุน, Diversify กระจายความเสี่ยงไปแต่ละสินทรัพย์อย่าไปกระจุกที่ใดที่หนึ่ง, สบายใจ ลงทุนอะไรต้องนอนหลับ, มีกำไร สุดท้ายต้องมีกำไร วัดผลตอบแทนกันเป็นรายปี ไม่ใช่รายวัน, ถึงเป้าหมาย นั่นคือมีความสุขและอยู่กับการลงทุนได้ทั้งชีวิต

12. ระบบ RUNTREND 3TF ที่สอนมาตลอดเรียบง่าย แต่ทรงพลัง เวลาตลาดขึ้นคนมองไม่เห็นเพราะผลตอบแทนไม่ได้หวือหวา แต่เวลาตลาดลงเกือบ 50 ตัวมีตัวพังฐานแค่ไม่กี่ตัว มันจะทำให้เราอยู่รอดได้ในตลาด ระบบนี้ไม่ได้วิเศษอะไรหรอก แต่พื้นฐานคือ TREND ทฤษฎีจากอาจารย์ดาว อาจารย์ของนักลงทุนทั้งโลก

ตลาดมันมี "รอบ" ตาม Market Psychology

ตอนหุ้นจะขึ้นทุกคนไม่แน่ใจว่าจะขึ้น ไม่เข้ามา

เข้ามาเมื่อความโลภอยู่เหนือความกลัวที่เรียกว่า Optimism'

และเข้ามามาก ๆ ตอนที่จะปลายดอย

พอโดนปล่อยของก็เริ่มลังเล กังวล

สุดท้าย โกรธ โทษคนนั้นโทษคนนี้ โทษนักวิเคราะห์ โทษ paper

ทั้ง ๆ ที่นักวิเคราะห์หรือ paper เขาเขียนด้วยเหตุและผล แต่เวลาตลาดมันลงแรง ๆ มันไม่มีคำว่าเหตุผล

แล้วก็เดินออกจากตลาดไปในตอนปลายรอบพร้อมความทรงจำสีแดง ๆ

และก็กลับเข้ามาใหม่หรือเปลี่ยนคนใหม่ตอนรอบใหม่ ๆ เสมอ ๆ

เช่นเคยครับ เงินอยู่ในตลาดแค่ฝากมันไว้ชั่วคราว วันนี้เปลี่ยนไปอยู่ในมือคนอื่น

วันหน้าถ้าความรู้พร้อม ใจพร้อม โอกาสมาเราหาคืนได้เสมอ

ตลาดแดง ๆ ผมจะออกมาบ่อยหน่อย มาช่วย ๆดูแลกัน

เป็นกำลังใจให้ทุกท่านในวันตลาดแดง ๆ เช่นเคยครับ

FB PAGE รวยหุ้นง่าย ๆ สไตล์ Dr.A

===