"ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)"ตั้งเป้าปี 65 พลิกกลับมามีกำไร ลุยขยายฐานลูกค้า 5G เพิ่มเป็น 4 ล้านราย ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน แม้ D/E สูง เหตุผ่านช่วงลงทุนหนักมาแล้ว จากนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทน พร้อมหวังมีปันผลต่อเนื่องทุกปี โบรกฯ คาดปี 65 พลิกกำไร 304 ลบ. มองราคาเป้าหมาย 3.90-5 บาท
*** TRUE ตั้งเป้าปี 65 พลิกกำไรยั่งยื่น ขยายฐานลูกค้า 5G แตะ 4 ล้านราย
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 65 บริษัทตั้งเป้าจะพลิกกลับมามีกำไรอย่างยั่งยืน และ รายได้เติบโตขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าธุรกิจเทเลคอมของบริษัท ซึ่งเป็นโครงสร้างของกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆจะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงบริษัทมีการปรับโครงสร้างต้นทุนให้มีประสิทธิภาพและลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยทำให้รายได้และกำไรของบริษัทน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้
ขณะที่ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้า 5G เพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านราย หรือเติบโต 1 เท่าตัว จากสิ้นปีนี้ที่คาดจะมีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 2 ล้านราย หลังไตรมาส 3/64 มีฐานลูกค้าแล้วจำนวน 1.5 ล้านราย โดยมีแรงหนุนสำคัญจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและการออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) รุ่นใหม่ๆที่รองรับระบบ 5G มากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 บริษัทคาดว่ารายได้จะกลับมาเติบโตได้ เนื่องจากปกติแล้วไตรมาสสุดท้ายของปีมักเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับภาครัฐมีมาตรที่ผ่อนคลายและเริ่มมีการเปิดประเทศ ต่างกับช่วงไตรมาส 3/64 ที่มีมาตรการล็อกดาวน์อยู่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น และหากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ คาดว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวดีขึ้น
*** TRUE ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน หวังจ่ายปันผลต่อเนื่องทุกปี
นางสาวยุภา กล่าวว่า สำหรับการลงทุนของบริษัทในปี 65 แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.เน้นการลงทุนขยายโครงข่ายมือถือเพื่อรองรับผู้ใช้งานที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการลงทุนเฉพาะจุดในพื้นที่ที่มีจำนวนการใช้หนาแน่น และ2.การลงทุนด้านธุรกิจบรอดแบนด์ เพื่อขยายพอร์ตในการรองรับลูกค้าใหม่โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ตามหมู่บ้าน
"ปัจจุบันบริษัทมีรายได้สัดส่วนกว่า 75% มาจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสัดส่วน 20% มาจากธุรกิจบรอดแบนด์ ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจทรูวิชั่นส์และทรูดิจิทัล กรุ๊ป ซึ่งในแต่ละส่วนของธุรกิจมีด้านดิจิทัลฝั่งอยู่ในทุกธุรกิจ ซึ่งเรามองว่าปี 65 ดิจิทัลจะมามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มทรู ซึ่งรายได้หลักจะมาจากดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เราสร้างไว้" นางสาวยุภา กล่าว
ส่วนกรณีที่หนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทในปัจจุบันค่อนข้างอยู่ในระดับสูงนั้น บริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุน เนื่องจากบริษัทได้ผ่านจุดการลงทุนที่สูงสุดไปแล้วและจะเห็นการลดลงของงบลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนดังกล่าว โดยตั้งเป้ามี Organic Growth จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมากขึ้น เพื่อรองรับการลงทุนต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแล้ว
นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าจะเป็นบริษัทที่ทำกำไรและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าหากหลังจากนี้ไม่มีอะไรมากดดันธุรกิจ บริษัทก็น่าจะสามารถดำเนินการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องได้ทุกปี
*** โบรกฯ คาดปี 65 พลิกกำไร 304 ลบ. มองราคาเป้าหมาย 3.9-5 บ.
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดขาดทุนปกติ ไตรมาส 4/64 ลดลงเหลือ 300-400 ล้านบาท ตามอานิสงส์การฟื้นตัวขึ้นของรายได้บริการหลังคลายล็อคดาวน์และฐานลูกค้า 5G ใหญ่ขึ้นล่าสุดอยู่ที่ 1.5 ล้านราย (5%ของลูกค้ามือถือ) และคาดสิ้นปีอยู่ที่ 2 ล้านราย ดังนั้น เราจึงยังคงคาดผลการดำเนินงานปกติปี 64-65 (ไม่รวมผล TFRS16 ราว -300 ล้านบาท/ไตรมาส) ดังเดิมที่ -467 ลบ.และ +304 ล้านบาท ตามลำดับ แนะนำ " NEUTRAL" โดยมีราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 3.9 บาท แนะนำ ถือ
ด้านบล.บัวหลวง ระบุถึงกรณีช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีประเด็นข่าวการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC ซึ่ง หากเกิดขึ้นจริงในรูปแบบของการ Swap หุ้น มองว่ามีโอกาสเกิดได้มากกว่าเนื่องจาก TRUE ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด และหากเกิดขึ้นจริงเรามองเป็นบวกกับทั้งคู่จากการแข่งขันที่ลดลง โดย TRUE จะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นในทางอ้อม
ซึ่งหากพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานเรามองว่าธุรกิจของ TRUE จะกลับสู่หมดการเติบโตหลังจากการเปิดเมืองในเดือน พ.ย. และขาดทุนหลักน่าจะลดลงใน ไตรมาส 4/64 และปี 65 หนุน โดยรายได้ค่าบริการที่ดีขึ้นและการลดต้นทุนต่อเนื่อง แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5 บาท