ห้องเม่าปีกเหล็ก

“หุ้นธีมจีน” แนวโน้มการเมืองและเศรษฐกิจจีนและการลงทุน

โดย จูกัดเหลียง
เผยแพร่ :
96 views

จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว 

แนวโน้มการเมืองและเศรษฐกิจจีนและการลงทุน “หุ้นธีมจีน”

 

 

นัยสำคัญของแนวโน้มการเมืองและเศรษฐกิจจีนในครึ่งหลังของปี 2566 หัวข้อสำคัญในการประชุม ได้แก่

 

การพลิกกลับของนโยบายเศรษฐกิจจีนจากนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน/zero-COVID ในปี 2564-2565 เป็นการเติบโตในปี 2566-2567

 

ความคาดหวังของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เร็ว ๆ นี้

 

ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์/อุปทานแรงงานส่งผลให้อัตราการว่างงานของชาวจีนอายุ 16-24 ปี สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 20.8% ในเดือนพ.ค. 2566

 

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความพยายามที่จะจำกัดผลกระทบด้านลบของทั้งสองฝ่าย

 

อินเดียจะไม่สามารถแทนที่จีนในฐานะโรงงานของโลกได้ในเร็ว ๆ นี้

 

คาดว่ารัฐบาลจีนจะเปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากในเดือนก.ค. 2566

1.การพลิกกลับของนโยบายเศรษฐกิจจีนจากนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน/zero-COVID ในปี 2564-2565 เป็นการเติบโตในปี 2566-2567

อ้างอิงจาก ดร. อาร์ม เศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ขาลงจนถึงปัจจุบัน โดยเติบโตเพียง 3% ในปี 2565 หลังจากทำจุดสูงสุดที่ 8.45% ในปี 2564 จากความเสียหายของมาตรการความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของรัฐบาลจีนและนโยบาย zero-COVID เพื่อสนับสนุนการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่สามของ สี จิ้นผิง และบทบาทของเขาในพรรคคอมมิวนิสต์ หลังจากอำนาจของ สี จิ้นผิง มีความมั่นคง ดร. อาร์ม คาดว่า สี จิ้นผิง จะมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะนี้เศรษฐกิจของจีนติดอยู่ในวงจรเลวร้าย จากการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและผลกำไรที่อ่อนแอ ภาคอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ย่ำแย่ เพื่อฉุดให้เศรษฐกิจจีนไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด

2.ความคาดหวังของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เร็ว ๆ นี้

ดร. อาร์มเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากในเร็ว ๆ นี้หลัง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนมีการเติบโตติดลบเป็นระยะเวลา 9 เดือนติดต่อกัน โดยลดลงสูงถึง 5.4% YoY ในเดือนมิ.ย. ในขณะที่เงินเฟ้อ (CPI) และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ของจีนลดลงสู่ระดับใกล้ศูนย์ที่ 0% และ 0.4% ตามลำดับในเดือนมิ.ย. 2566

 

ความกังวลปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยต่างประเทศ

3.ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์/อุปทานแรงงานส่งผลให้อัตราการว่างงานของชาวจีนอายุ 16-24 ปี สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 20.8% ในเดือนพ.ค. 2566

ดร.อาร์มไม่กังวลเกี่ยวกับการว่างงานของเยาวชนในจีนที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 เนื่องจากเป็นผลมาจากอุปสงค์/อุปทานแรงงานที่ไม่สมดุล กล่าวคือคนหนุ่มสาวเลือกที่จะเรียนในสาขาบริการ/เทคโนโลยีมากกว่าที่จะเป็นผู้ใช้แรงงานตามพ่อแม่ หลายคนอาจเลือกที่จะเป็นผู้ประกอบการหรือไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อยกระดับทักษะและหางานทำในต่างประเทศแทนตลาดในประเทศ

4.ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความพยายามที่จะจำกัดผลกระทบด้านลบของทั้งสองฝ่าย

ดร.อาร์มเชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะดำเนินต่อไปและอาจบานปลายในอนาคต ขณะที่การเยือนจีนครั้งล่าสุดของ นาย แอนโทนี บลิงเกน และ นาง เจเน็ต เยลเลน เป็นเพียงการจำกัดผลกระทบเชิงลบในระยะสั้นต่อทั้งสองฝ่าย

5.อินเดียจะไม่สามารถแทนที่จีนในฐานะโรงงานของโลกได้ในเร็ว ๆ นี้

ดร. อาร์มไม่เชื่อว่าอินเดียจะเข้ามาแทนที่จีนในฐานะโรงงานของโลกในเร็วๆ นี้ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่าของจีน ความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน และห่วงโซ่อุปทานที่กว้างขวาง

 

กลุ่มที่ได้ประโยชน์หลัก จากการฟื้นตัวของจีน เมื่อมีมาตรการกระตุ้นชัดเจน

 

มุมมอง KS

 

เราเคยเชิญ ดร. อาร์ม เข้าร่วมรายการ KS-Expert -Series เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 เมื่อดัชนี CSI 300 ของจีนและดัชนี Hang Seng อยู่ใกล้จุดต่ำสุดในปี 2565 และมุมมองของเขาที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์นั้นถูกต้อง

 

เราเชื่อว่าครั้งนี้นักลงทุนควรที่จะกล้าหาญเมื่อคนอื่นกลัวกองทุนจีนและหุ้นธีมจีน (PTTGC, IVL, BANPU, SCGP และ PSL) อีกครั้งเมื่อรัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากเพื่อหลีกหนีจากวงจรปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน

 

สำหรับกองทุนตราสารทุนของจีน ทีม Asset allocation ของเราเลือกกองทุน K-CHINA-A ที่ลงทุนผ่านกองทุน JPMorgan Funds ซึ่งมีการกระจายการลงทุนในหุ้น A-Shares, H-Shares และหุ้นจีนที่จดทะเบียนในต่างประเทศ

 

หุ้นธีมจีน

PTTGC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 46.70 บาท

IVL ซื้อ ราคาเป้าหมาย 38.60 บาท

BANPU ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท

SCGP ถือ ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท

PSL ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท

 

กองทุนธีมจีน

K-CHINA-A

 

หุ้นจีนทยอยซื้อสะสม ตลาดหุ้นปรับลดลง จาก Goldman Sachs ปรับคำแนะนำเป็นขายในธนาคาร Agricultural Bank of China, ICBC และ Industrial bank จากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการใช้ Local government financing vehicle รวมถึง กลต. สหรัฐ ตรวจสอบหุ้นจีนในฮ่องกงและสหรัฐฯ อย่าง Tencent, DiDi, NetEase ภาพระยะยาวเรายังให้ความสำคัญกับการที่จีนตั้งเป้าหมาย GDP ปีนี้โต 5% จากการใช้จ่ายภาครัฐ และการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แนะนำกองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน-A (K-CHINA-A) ซึ่งลงทุนในกองทุน JPMorgan Funds – China Fund ที่ลงทุนหุ้นจีนแบบ All China ทั้ง A-Shares, H-Shares และหุ้นจีนในต่างประเทศ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

 

 

 


จูกัดเหลียง